การส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนและความคิดสร้างสรรค์ ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนโดยใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเพลิน (PLEARN)
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของผู้เรียน และเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังการใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้ภาษาแบบเพลิน (PLEARN) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วย นักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนวัดช่างเคี่ยนที่เป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 32 คน และนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ในปีการศึกษา 2559 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาจำนวน 13 คน ซึ่งได้ใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้ภาษาแบบเพลิน (PLEARN) ในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแผนการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการเรียนรู้ที่ใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้ภาษาแบบเพลิน (PLEARN) แบบสอบถามแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน และแบบวัดความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า หลังการใช้กลวิธีการจัดการเรียนรู้ภาษาแบบเพลิน (PLEARN) แรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนสูงขึ้น จากระดับปานกลางเป็นระดับสูงมาก และความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษสูงขึ้นจากระดับปานกลางเป็นระดับสูง
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Bruner, J. T. (1997). Education and the brain: A bridge too far. Educational Researcher, 26(8), 4-16.
Chanvivitch, P. (2005). The use of English camp activities as a motivation strategy of students and creativity enhancement for professional teachers, drivers of AEC. Chiang Mai: Chiang Mai Rajabhat University. [in Thai]
Department of English for international communication. (2002). Course description of English teaching for international communication (curriculum approved in 2002). Chiang Mai: Rajamangala University of Technology Lanna. [in Thai]
Ellis, R. (1994). The study of second language acquisition. New York: Oxford University Press.
Gardner, R. C., & Lambert, W. E. (1972). Attitudes and motivation in second language learning. Rowley, MA: Newbury House.
Keitsiriroj, U. (2001). Promoting critical thinking and English writing ability of mathayomsuksa 5 students using Constructivist Instruction (Master thesis). Chiang Mai: Chiang Mai University. [in Thai]
Khemmani, T., et al. (2002). Learning process: meaning, approach to development and suspicious problems. Bangkok: Institute of Academic Development. [in Thai]
Kong, Y. (2009). A brief discussion on motivation and ways to motivate students in English Language learning. International Education Studies, 2(2), 145-9.
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. New York: New York University.
Office of the Permanent Secretary, Ministry of Education. (2002). Education development plan of the Ministry of education, no. 11. ( 2002-2006). Retrieved August 11, 2013, from https://pld.rmutt.ac.th/?wpfb_db=210 [in Thai]
Phunphuak, S. (2001). The use of O-NET results for instruction development and achievement enhancement. Retrieved August 11, 2013, from https://www.onesqa.or.th/onesqa/th/ download/index.php?DownloadGr%20%20%20%20oupID [in Thai]
Robinson, J. R. (2010). Webster's dictionary defining and development. Online Journal of workforce education and development, 3(2). Retrieved September 2, 2013, from https://opensiuc.lib.siu.edu/cgilviewcontent.cgi?articlrl07l
Tanjitanont, P. (2003). Potential development of the community in Tambol Nongchangkuen Municipality relevant to English for Communication in ASEAN community. Chiang Mai: Rajamangala University of Technology Lanna. [in Thai]
Zahorik, J. A. (1995). Constructivist teaching (fastback 390). Bloomington, Indiana: Phi Delta Kappa Educational Foundation.
