กระบวนการสื่อสารเทศกาลสร้างสรรค์ไทยผ่านอารมณ์เชิงบวกเพื่อกำหนดแนวทางการใช้สีเพื่อสื่ออารมณ์ความรู้สึกในการออกแบบเรขศิลป์
คำสำคัญ:
อารมณ์เชิงบวก , เทศกาลสร้างสรรค์ไทย, การสื่อสาร, สีและอารมณ์ความรู้สึกบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการสื่อสารเทศกาลสร้างสรรค์ไทยผ่านอารมณ์เชิงบวกเพื่อกำหนดแนวทางการใช้สีเพื่อสื่ออารมณ์ความรู้สึกในการออกแบบเรขศิลป์ ภายใต้หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานฤมิตศิลป์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการค้นหารูปแบบกระบวนการสื่อสารเทศกาลสร้างสรรค์ไทยผ่านอารมณ์เชิงบวกเพื่อกำหนดแนวทางในการใช้สีเพื่อสื่ออารมณ์ความรู้สึกในการออกแบบเรขศิลป์ โดยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interviews) และการสนทนากลุ่ม (Focus group) จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และอาจารย์ด้านการจัดเทศกาล ผลการวิจัยพบว่า จากการแบ่งประเภทเทศกาลสร้างสรรค์ไทยทั้งหมด จำแนกได้ 9 ประเภทเทศกาล ต่อมาจึงนำอารมณ์เชิงบวกมาใช้แบ่งประเภทของเทศกาลสร้างสรรค์รวมถึงชุดสีเพื่อสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกได้ โดยการจำแนกอารมณ์เชิงบวกที่สอดคล้องกับเทศกาลสร้างสรรค์ไทยทั้ง 9 ประเภท ผลสรุปดังนี้ 1. เทศกาลสร้างสรรค์ประเภทกีฬาตรงกับความกระฉับกระเฉง (Energetic) ชุดสีที่มีพลัง 2. การแสดงละคร ศิลปะ กับความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุข (Euphoria) ชุดสีเพ้อฝัน ไม่เป็นทางการ 3. ศาสนากับความเคารพ (Respect) ชุดสีเป็นทางการ 4. อุทยานแห่งชาติกับความผ่อนคลาย (Relaxation) ชุดสีมีความเป็นธรรมชาติ 5. สัตว์ประจำถิ่น ตรงกับความสนุกสนาน (Amusement) ชุดสีที่มีพลัง ไม่เป็นทางการ 6. ดอกไม้ประจำถิ่นตรงกับความรัก (Love) ชุดสีมีความน่ารัก เพ้อฝัน 7. การแสดงดนตรี ตรงกับแรงบันดาลใจ (Inspiration) ชุดสีที่มีความเป็นธรรมชาติ หรูหรา 8. แหล่งสถาปัตยกรรม ตรงกับความน่าหลงใหล (Fascination) ชุดสีมีความหรูหรา 9. การจัดงานตามแนวคิดตรงกับความมีเสน่ห์ (Enchantment) ชุดสีที่มีความหรูหรา เพ้อฝัน โดยข้อสรุปดังกล่าว จะนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการใช้สีในการออกแบบเรขศิลป์สำหรับเทศกาลสร้างสรรค์ไทยต่อไป
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2566). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566-2570). สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2567, จาก https://province.mots.go.th/ewtadmin/ewt/ranong/download/article/article_20230418122435.pdf
นพดล อินทร์จันทร์. (2567). การออกแบบอัตลักษณ์องค์กร จังหวัดหนองคาย เพื่อเพิ่มศักยภาพการ ท่องเที่ยว. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม. 12(2), 58-60
Carter, R. (2022). Simply the brain (p. 42). Dorling Kindersley Limited.
Delft University of Technology. (2016). Positive emotional granularity cards. Retrieved from https://diopd.org/wp-content/uploads/2016/06/positive_emotional-granularity_cards.pdf
Desmet, P. M. A. (2012). Faces of product pleasure: 25 positive emotions in human-product interactions. International Journal of Design. 6(2), 1–29.
Getz, D. (1991). Festivals, special events, and tourism. New York: Van Nostrand Reinhold.
Kobayashi, S. (1990). Color image scale. Nippon Color & Design Research Institute, Inc.; Kodansha Ltd.
Lee, J. J. (2014). Visitors’ emotional responses to the festival environment. Journal of Travel & Tourism Marketing, 31(1), 114–131. Retrieved from https://doi.org/10.1080/10548408.2014.861726
Maslow, A. H. (1943). A theory of human motivation. Psychological Review. 50, 370–396.
Mykletun, R. J. (2009). The festivalscape of Finnmark. Scandinavian Journal of Hospitality and Tourism, 9, 327–348.
Plutchik, R. (1980). Emotion: A psychoevolutionary synthesis. New York, NY: Harper & Row.
Tsogas, D. M. L., Zouganeli, Z., & Haritos, T. H. (2022). Self-love emotion as a novel type of love for tourism destinations. Tourism Geographie., 24(5–6), 899–922. Retrieved from https://doi.org/10.1080/14616688.2020.1854161
Xue, H., Desmet, P. M. A., & Fokkinga, S. F. (2020). Mood granularity for design: Introducing a holistic typology of 20 mood states. International Journal of Design. 14(1), 1–18.
Yoon, J. K., Pohlmeyer, A. E., Desmet, P. M. A., & Kim, C. (2020). Designing for positive emotions: Issues and emerging research directions. The Design Journal, 24(2), 167–187.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
