THE PHYSICS LEARNING ACTIVITIES BASED ON STEAM EDUCATION WITH LOCAL AND COMMUNITY CONTEXTS TO ENHANCE PROBLEM-SOLVING ABILITIES FOR STUDENTS AT 10TH GRADE LEVEL

Authors

  • Waraporn Sararat มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
  • Pornchai Nookaew Kanchanaburi Rajabhat University
  • Karanphon Wiwanthamongkon Kanchanaburi Rajabhat University

Keywords:

Problem Solving Abilities, STEAM Education, Local And Community Contexts

Abstract

This research aims were to: 1) efficiency of learning activities; 2) to study enhance problem solving abilities after learning activities at the criteria level as 70 percent; 3) to study learning outcomes of learning activities based on STEAM education with local and community contexts. The target group involved in this research was a total of eight ten grade students in the semester 2/2023 from Thamakapunsirivitthaya School. The tools used in this research were: learning management plan, (content validity was 0.80-1.00) problem solving abilities assessment (content validity was 0.60-1.00) and tests. (content validity was 0.80-1.00) The data were analyzed using percentage, mean, standard deviation, and t-test dependent.

          The results of the study were found as follows: 1) The efficiency of physic learning activities based on STEM education with local and community contexts to enhance problem solving abilities for student at ten grade level was found to be of 73.94/71.88 higher than 70/70 standard criteria 2) good results were found for problem solving abilities of the ten grade students after the activities. 3) Learning Outcomes of the ten grade students after the activities was found to be higher than that prior to the activities.

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย. 5(1) หน้า 7-20.

ณัฐพงษ์ เทศทอง. (2564). ผลการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ตามแนวคิด STEAM เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1. สาขาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ธนวรรธณ์ ศรีวิบูลย์รัตน์. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคดสะเต็มศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เรื่อง งานและพลังงาน รายวิชาฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. สาขาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ปัญกาญจน์ ทรัพย์เจริญ. (2563). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษาร่วมกับบทเรียนอีเลิร์นนิงวิชาเทคโนโลยี 1 (วิทยาการคํานวณ) เรื่อง การพัฒนาโครงงาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ภาควิชาครุศาสตร์อุุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

พงศกร ลอยล่อง. (2564). การเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การเคลื่อนที่และแรง ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้้ (5E) กับการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาขาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2555). วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 7. นครปฐม: ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วรรณี แก้วจันทร์. (2558). ผลของการใช้กระบวนการสืบเสาะโดยใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์. สาขาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์จังหวัดปทุมธานี.

วิสูตร โพธิ์เงิน. (2560). STEAM ศิลปะเพื่อสะเต็มศึกษา: การพัฒนาการรับรู้ความสามารถและแรงบันดาลใจให้เด็ก. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 45(1), 320-334. ค้นจาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/106154.

สมนึก ภัททิยธนี. (2555). การวัดผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์

สำนักทดสอบทางการศึกษา. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ. กรุงเทพ. : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย

สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย. (2558). แนวทางการจัดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นสมรรถนะทางสาขาวิชาชีพ. กรุงเทพมหานคร : ชมนุมสหกรณ์

อภิญญา สิงห์โต. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. สาขาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

เอกสิทธิ์ ชนินทรภูมิ. (2564). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด STEAM เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา. สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาควิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Giuliano, F. J. (1998). The relationships among cognitive variables and studentsproblem-solving strategies in an interactive chemistry classroom. Proquest-Dissertation Abstracts. 59, 125-A.

HyunJu Park, Soo-yong Byun, Jaeho Sim, Hyesook Han and Yoon Su Baek. (2016). Teachers’ Perceptions and Practices of STEAM Education in South Korea. Eurasia Journal of Mathematics, Science & Technology Education. 12(7), 1739-1753.

Jeong & Kim. (2015). The Effect of a Climate Change Monitoring Program on Students’ Knowledge and Perceptions of STEAM Education in Korea. Eurasia Journal of Mathematics, Science & Technology Education. 11(6).1321-1338.

Prayekti, P. (2016). Effects of Problem-Based Learning Model Versus Expository Model and Motivation to Achieve for Student's Physic Learning Result of Senior High School at Class Xi. Journal of Education and Practice, 7(1), 30-37.

Downloads

Published

2024-04-26

How to Cite

Sararat, W., Nookaew, P. ., & Wiwanthamongkon, K. (2024). THE PHYSICS LEARNING ACTIVITIES BASED ON STEAM EDUCATION WITH LOCAL AND COMMUNITY CONTEXTS TO ENHANCE PROBLEM-SOLVING ABILITIES FOR STUDENTS AT 10TH GRADE LEVEL. Journal of Humanities and Social Sciences Mahamakut Buddhist University Isan Campus, 5(1), 232–243. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jhsmbuisc/article/view/271167

Issue

Section

บทความวิจัย