บทบาทผู้นำสตรีทางการเมือง กรณีศึกษาในจังหวัดเลย

ผู้แต่ง

  • ชญากนก จันทะฟอง
  • วีรนุช พรมจักร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง
  • พระครูพิสุทธิธรรมาภรณ์

คำสำคัญ:

ผู้นำ, บทบาทผู้นำสตรี, การเมือง

บทคัดย่อ

สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพการแสดงออกทางการเมืองของผู้นำสตรีในจังหวัดเลย 2) บทบาทผู้นำสตรีทางการเมืองในจังหวัดเลย และ 3) ปัญหา และอุปสรรคการดำเนินงานบทบาททางการเมืองของผู้นำสตรีในจังหวัดเลย เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง กลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้นำสตรีผู้นำสตรีแบบแต่งตั้ง และเลือกตั้ง จำนวน 12 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้หลักพรรณนาวิธี

           ผลการวิจัยพบว่า

           การแสดงออกของผู้นำสตรีในจังหวัดเลย พบว่า ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในสังคมไทย ในทุกครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงได้พิสูจน์ตัวเองจนทำให้สังคมยอมรับถึงเรื่องของความสามารถ ศักยภาพ ความรับผิดชอบ คุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน คุณสมบัติที่ดีที่อยากทำงานให้ผู้หญิงมีครบ แต่ด่านที่ยากที่สุดคือ การพิสูจน์ว่าผู้หญิงเก่งจริง หรือไม่ แต่ในช่วงเวลาหลายปีที่มาผ่านพิสูจน์ได้ว่าผู้หญิงมีความสามารถมากขึ้น และมีอัตราส่วนในพื้นที่ทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น

           บทบาททางการเมืองของผู้นำสตรีในจังหวัดเลย พบว่ามีการลงสมัครเลือกตั้งระดับชาติ และระดับท้องถื่น ร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในทุก ๆ ระดับ, ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้ง, เข้าร่วมกลุ่มทางการเมืองในระดับชุมชน มีการพูด ถกเถียงหรือวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ทางการเมือง และผู้นำสตรีทุกคนให้ความสำคัญกับการรักษาสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ตามกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

           ปัญหาและอุปสรรค พบว่า ยังมีการยึดติดกับค่านิยมหรือความเหลื่อมล้ำทางเพศแบบดั้งเดิม คือ มักมองว่าสตรีเพศมีความอ่อนแอกว่าเพศชาย จึงไม่มีความเหมาะสมในตำแหน่งของผู้นำ ทำให้ผู้นำสตรีต้องใช้ความสามารถในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม และจะต้องมีการพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองอยู่เสมอ จึงจะทำให้มีบทบาททางการเมืองมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

เอกสารอ้างอิง

กมลชนก สัจจาวัฒนา และ ฉัตรวรัญ องคสิงห์. (2559). บทบาทของผู้นำสตรีที่ประสบความสำเร็จ ในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา, การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ประจําปี 2559 (RSU National Research Conference 2016).

กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. (2560). ราชกิจจานุเบกษา. 7 มีนาคม 2560. เล่ม 134 ตอนพิเศษ 89 ง .

ชญากนก จันทะฟอง, วีรนุช พรมจักร์. (2565). บทบาทผู้นำสตรีทางการเมืองในภาคอีสาน. วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. ปีที่ 2 ฉบับที่ 5 (กันยายน-ตุลาคม 2565),74-87.

ชัยณรงค์ฤทธิ์ วาปีสิน. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ของกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ (กพสอ.) : ศึกษาเฉพาะกรณี จังหวัดสิงห์บุรี. กรุงเทพฯ: คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์.

ไชยวุฒิ มนตรีรักษ์. (2551). นักการเมืองถิ่นจังหวัดเลย. ชุดสำรวจเพื่อประมวลข้อมูลนักการเมืองถิ่น, นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า.

ราชกิจนานุเบกษา. (2540). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพปวงชนชาวไทย เล่ม 114 ตอนที่ 55 ก.

ธัญญธร บุญอภัย. (2562). สตรีในการพัฒนาสังคม. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาและการพัฒนาสังคม. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

วชิรพงศ์ ศรีเจริญวงศ์. (2564). การส่งเสริมบทบาทสตรีในทางการเมือง : เปรียบเทียบกับต่างประเทศ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. ปีที่ 12, ฉบับที่ 2 (ก.ค.-ธ.ค. 2564).

สมิหรา จิตตลดากร. (2529). ภาวการณ์เป็นผู้นำของสตรีในการปกครองท้องที่ของไทย. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต (รัฐศาสตร์). กรุงเทพ : บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อัญธิษฐา อักษรศรี และวันชัย แสงสุวรรณ. (2564). บทบาทของสตรีไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาลัยเขตสิรินธรราชวิทยาลัย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

13-12-2023

รูปแบบการอ้างอิง

จันทะฟอง ช. ., พรมจักร์ ว. ., & พระครูพิสุทธิธรรมาภรณ์. (2023). บทบาทผู้นำสตรีทางการเมือง กรณีศึกษาในจังหวัดเลย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมร วิทยาเขตอีสาน, 4(3), 59–69. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jhsmbuisc/article/view/267649

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย