แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผันของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเอกชนกลุ่มลุ่มน้ำเมย สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผัน 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผันตามประสบการณ์และขนาดของสถานศึกษา 3) หาแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผัน เป็นงานวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนโรงเรียนเอกชนกลุ่มลุ่มน้ำเมย จำนวน 205 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการเปิดตารางของเครจซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ การทดสอบค่าที การหาค่าความแปรปรวนทางเดียว เขียนบรรยาย นำเสนอเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) ภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผันของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนกลุ่มลุ่มน้ำเมย สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผันของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนกลุ่มลุ่มน้ำเมย สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานภาพรวมไม่แตกต่างกัน และขนาดของสถานศึกษาภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคพลิกผันของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนกลุ่มลุ่มน้ำเมย สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก พบว่าการวิจัยนี้นำเสนอองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในยุคพลิกผัน โดยศึกษาจาก 5 ด้านหลัก ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ ทักษะทางเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม ภายใต้กรอบแนวคิด VUCA (ความผันผวน ความไม่แน่นอน ความสลับซับซ้อน และความคลุมเครือ) ซึ่งช่วยสะท้อนบทบาทผู้นำที่ต้องมีความสามารถในการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีอย่างมียุทธศาสตร์ ผลวิจัยมีคุณค่าต่อการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการอบรม การประเมินตนเอง และการออกแบบนโยบายการศึกษา ช่วยยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการสถานศึกษาเอกชน และเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
- ข้อความใดๆ ที่ปรากฎในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
ปวีณา บุทธิจักร์. (2564). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา: คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ภคินี ศรีสุไชย. (2563). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
มลฤดี นิลทัพ. (2564). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
วิภา แตงไทย. ( 2560). การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมในการบริหารสถานศึกษา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ศึกษาธิการ, สำนักงาน. (2560). รายงานการปฏิบัติงานของสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดตาก พ.ศ. 2560.สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก.
ศศิมา สุขสว่าง. (2560). การพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมตัวสู่โลก VUCA World. สืบค้น 27 กรกฎาคม 2566 จาก https://www.sasimasuk.com/16769554
สิงห์คำ ยอดปานันท์. (2562). ภาวะผู้นำเชิงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการบริหาร การเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อาซีซ๊ะ ยีหะมะ. (2560). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนศูนย์เครือข่ายธารามิตร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1. การค้นคว้าอิสระหลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities, Educational and Psychological Measurement. Theravāda Buddhism. 30(3), 607-610.