การป้องกันประทุษวาจาในการสื่อสารออนไลน์ตามทรรศนะพุทธจริยศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปรากฏการณ์ของประทุษวาจาในสื่อออนไลน์ ส่งผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและแนวทางการป้องกันตามหลักพุทธจริยศาสตร์ ยุคดิจิทัลที่สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการสื่อสาร ทำให้ประทุษวาจาได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ก่อความเสียหายต่อบุคคลและสังคม การแสดงความเกลียดชังและดูถูกกันนำไปสู่การแบ่งแยก ความขัดแย้ง และความรุนแรง การแก้ไขปัญหามีหลักพุทธจริยศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทางวาจา มีหลักศีลข้อที่ 4 เน้นการละเว้นจากการพูดเท็จ ร่วมกับหลักสัมมาวาจาที่ส่งเสริมการสื่อสารอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังประยุกต์ใช้หลักพรหมวิหาร 4 ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เพื่อเสนอแนวทางการสื่อสารที่สุภาพ เกื้อกูล และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม การประยุกต์ใช้หลักสัมมาวาจา วจีสุจริต วาจาสุภาษิต และพรหมวิหาร 4 สามารถลดวาทะที่สร้างความเกลียดชัง และส่งเสริมการสื่อสารเชิงบวกได้ ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจและการเคารพซึ่งกันและกันในสังคมดิจิทัล ได้แก่ 1) การส่งเสริมการใช้ภาษาสุภาพ ปลูกฝังวัฒนธรรมการสื่อสารที่ให้เกียรติและสร้างสรรค์ ใช้ถ้อยคำสุภาพเหมาะสมในทุกแพลตฟอร์ม พร้อมสนับสนุนสื่อและกิจกรรมที่เป็นต้นแบบของการสื่อสารเชิงบวก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้ออนไลน์คนอื่นๆ 2) การสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบ ช่วยให้ผู้ใช้ออนไลน์ตระหนักว่าทุกคำพูดมีผลกระทบต่อสังคม เลือกใช้คำอย่างมีเมตตาและเหตุผล เพื่อลดการสื่อสารที่นำไปสู่การแตกแยก 3) บทบาทร่วมของสังคมและรัฐ การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัยกลไกร่วม เช่น การออกนโยบายและกฎหมายที่เป็นธรรม ระบบรายงานเนื้อหาในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่โปร่งใส บทบาทของผู้นำทางความคิดควรเป็นแบบอย่างในการใช้วาจาเชิงสร้างสรรค์ เมื่อผสานแนวทางเหล่านี้เข้ากับหลักพุทธจริยศาสตร์ จะช่วยให้สังคมออนไลน์มีบรรยากาศที่สงบ สุภาพ และเข้าใจกันมากขึ้น ลดความเกลียดชัง และวางรากฐานให้การอยู่ร่วมกันในยุคดิจิทัลมีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อทุกฝ่าย การพัฒนาแนวปฏิบัติด้านการสื่อสารที่สุภาพบนสื่อออนไลน์ การรณรงค์สร้างความตระหนักด้านจริยธรรมการใช้ถ้อยคำ ตลอดจนการมีบทบาทร่วมกันของรัฐ สังคม และสถานศึกษาในการกำกับดูแลและกำหนดกลไกเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการสื่อสารอย่างมีความรับผิดชอบ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
- ข้อความใดๆ ที่ปรากฎในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ และประทีป พืชทองหลาง. (2561). การสื่อสารธรรมเพื่อการพัฒนาสังคมเชิงสร้างสรรค์. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์. 6(Sup.), 230–238
ในราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี. (2565). ถนอมใจ ไม่ใช้ Hate Speech (ประทุษวาจา). โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จํากัด.
ในราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี. (2566). รู้เท่าทัน Hate Speech สร้างภูมิคุ้มกันทางใจ.โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จํากัด.
พระครูกมลรัตน์ อภิปุญฺโญ (ต่ายลีลาศ) และพระวิเชียร อภิปุญฺโญ (แสนศรี). (2564). การเข้าถึงสื่อออนไลน์ด้วยพุทธธรรม. วารสารปรัชญาปริทรรศน์. 26(6), 230-238.
พระครูศรีปรีชากร (เลื่อน บุญยงค์). (2562). แนวทางการสื่อสารเชิงพุทธเพื่อสันติสุขในสังคมไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 6(6), 2802–2820.
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส และคณะ. (2554). สัมมาวาจา “พูดดี ดูดี สังคมดี”. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ 21 เซ็นต์จูรี่.
พระรุ่งตะวัน สิริวณฺโณ (แดงบุญเรือง). (2566). พุทธวิธีการเผยแผ่พุทธศาสนาในสื่อออนไลน์ ยุค 5 G. วารสารส่งเสริมและพัฒนาวิชาการสมัยใหม่. 1(4), 32-46.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วรยุทธ พลศรี, พระครูปลัดบุญช่วย โชติวํโส, และสุนทร สายคำ. (2565). แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะผู้บริหารตามหลักพรหมวิหาร 4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 2. Journal of Modern Learning Development. 7(6), 315-327.
สรานนท์ อินทนนท์. (2563 ). การสื่อสารที่สร้างความเกลียดชัง (Hate Speech). มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ บริษัท วอล์ค ออน คลาวด์ จำกัด.
สุชาวดี เดชทองจันทร์ ลิมปนนาคทอง. (2566). พรหมวิหาร 4: การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เชิงพุทธกับความเป็นพลเมืองดิจิทัล. วารสารสหวิทยาการทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. 1(2), 2–11.
อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์. (2564). การสื่อสารประทุษวาจาทางการเมืองไทยบนเฟชบุ๊ก. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
AP News. (2025). Landmine blast injures soldiers on Thai-Cambodian border. Retrieved 20 August 2025 from https://apnews.com/article/thai-cambodian-border-landmine-2025
Castells, M. (2013). Communication Power. Oxford: Oxford University Press.
Entman, R. M. (1993). Framing: Toward clarification of a fractured paradigm. Journal of Communication. 43(4), 51–58.
Reuters. (2025). พบผู้รับสื่อทั่วโลกกังขาความถูกต้องของห้องข่าว ที่ขับเคลื่อนด้วย AI. Retrieved 20 March 2025 form https://www.brandage.com/article/39375
Hyungyungn Joo. (2017). Factors Impacting Student Reporting Bullying or Cyberbullying to School Personnel. A Dissertation in Counselor Education, The Graduate school College of Education: The Pennsylvania State University.
Manushya Foundation. (2024). Hate speech in Thailand and ASEAN: Annual report. Retrieved 20 August 2024 from https://www.manushyafoundation.org/reports
Noelle-Neumann, E. (1993). The Spiral of Silence: Public Opinion–Our Social Skin. Chicago: University of Chicago Press.
Suler, J. (2004). The online disinhibition effect. CyberPsychology & Behavior. 7(3), 321–326.
The Guardian. (2025). Thai–Cambodian border clashes escalate after landmine injuries. Retrieved 20 August 2025 from https://www.theguardian.com/world/2025/aug/ 18/thai-cambodian-border-clashes.
United Nations Development Programme (UNDP). (2024). Big data analysis on hate speech and online incitement in Thailand. Retrieved 20 August 2024 from https://www. undp. org /thailand/ publications/big-da ta-hate-speech.