ศึกษาวิเคราะห์บ่วงแห่งมารในปาสราสิสูตร

Main Article Content

พระมหาขันทอง ถาวโร
ศุภกาญจน์ ชยาพัฒน์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาโครงสร้างและเนื้อหาสำคัญของปาสราสิสูตร 2) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดเรื่องบ่วงแห่งมารในปาสราสิสูตรเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพแบบวิจัยเอกสารโดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สรุปวิเคราะห์ เรียบเรียง บรรยาย เชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) โครงสร้างปาสราสิสูตร ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 12 ปาสราสิสูตรเป็นพระสูตรสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุ 500 รูป ณ พระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี โดยใช้อุปมาบ่วงดักสัตว์เปรียบเทียบกับบ่วงแห่งมาร และรวบรวมหลักธรรมสำคัญไว้อย่างครบถ้วน บ่วงแห่งมารในปาสราสิสูตรหมายถึงเครื่องผูกมัดที่ทำลายความดีและนำทุกข์มาให้ ได้แก่ กามคุณ 5 รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย ที่ล่อใจให้สัตว์โลกหลงติดในวัฏสงสาร โทษของบ่วงแห่งมารเกิดจากการสัมผัสอารมณ์ที่น่าพอใจผ่านทวาร 6 ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ความติดใจ และความยึดมั่น เพราะขาดสติ ก่อให้เกิดภพชาติและทุกข์ การหลุดพ้นจากบ่วงแห่งมารต้องพัฒนาปัญญาและสติปัฏฐาน 4 เพื่อพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ให้เห็นความไม่เที่ยง ทุกข์ อนัตตา การวิเคราะห์พบว่าบ่วงแห่งมารส่งผลต่อมนุษย์ทุกคนผ่านการยึดมั่นในกามโดยความหลง การหลุดพ้นต้องมีสติขณะรับรู้ตามอายตนะเมื่อมีผัสสะเกิดขึ้น โดยใช้การปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานเป็นเครื่องมือผู้ปฏิบัติจนเข้าใจจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ได้ เรียกว่าการบรรลุธรรมหรือการหลุดพ้นจากบ่วงแห่งมาร

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ถาวโร พ., & ชยาพัฒน์ ศ. (2025). ศึกษาวิเคราะห์บ่วงแห่งมารในปาสราสิสูตร. วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, 9(2), 41–53. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jmb/article/view/286264
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เธียรนันท์. (2551). มารมีจริง ทำดีแค่ไหน หากเผลอใจก็เป็นมาร. นนทบุรี : พิมพ์ดีการพิมพ์.

พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว. (2527). วิทยาการแสวงหาความรู้กับการศึกษารัฐศาสตร์ในหลักและวิธีการศึกษาทางรัฐศาสตร์ เล่มที่ 1. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2546). พุทธธรรม ฉบับปรุบปรุงและขยายความ. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาวสันตการณพิรุณ ปญฺญาวโร (วงศ์กา). (2545). การศึกษาวิเคราะห์เรื่องเมถุนธรรมในพระวินัยปิฎก.วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พุทธทาสภิกขุ. (2542). บางแง่มุมของกามในทัศนะพุทธทาสภิกขุ. กรุงเทพฯ: สุขภาพใจ.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ลดาวัลย์ คำจันทร์. (2534). วิเคราะห์สมถะ-วิปัสนนากรรมฐานของห้าสำนัก. รายงานวิจัย คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: วิทยาลัยครูอุบลราชธานี.

ส.มหาปัญโญภิกขุ. (2550). การรู้ธรรมแบบรู้แจ้ง. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ใยไหม.

เสฐียรพงษ์ วรรณปก. (2540). พุทธวิธีสอนจากพระไตรปิฎก. กรุงเทพฯ: เพชรรุ่งการพิมพ์.

Thanissaro Bhikkhu. (1997). Pabbatopama Sutta: The Simile of the Mountains (SN 3.25). N.P. : n.p.