การประยุกต์ใช้แนวคิดศิลปะของไคลฟ์ เบลล์ เพื่ออธิบายการแต่งหน้า

Main Article Content

ธนิก เศรษฐกุลธำรง

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้แนวคิดศิลปะของไคลฟ์ เบลล์ เพื่ออธิบายการแต่งหน้า โดยใช้การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า ศิลปะ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นกระบวนการของการสร้างสรรค์ที่เกิดจากการแสดงออกของความคิด จินตนาการ และความรู้สึก สามารถแสดงออกผ่านหลายรูปแบบ เช่น ภาพวาด ประติมากรรม ฯลฯ  มีนักปรัชญาหลายท่านได้กล่าวถึงศิลปะไว้อย่าง เบเนเด็ดโต โครเซ่ ว่า ศิลปะคือการแสดงออก หรือกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ เป็นกระบวนการที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในความคิดของศิลปินโดยมีผลลัพธ์เป็นผลงานของศิลปะ ตอลสตอย กล่าวว่า ศิลปะคือการสร้างสรรค์ของสุนทรียะ การถ่ายทอดสื่อสารทางอารมณ์สะเทือนใจไปยังบุคคลอื่น ๆ ในขณะที่ไคลฟ์ เบลล์ กล่าวว่า ศิลปะคือ เส้น สี รูปทรง พื้นผิว พื้นที่ว่าง การจัดวางองค์ประกอบ ความสัมพันธ์องค์ประกอบ จะต้องสอดคล้องกลมกลืนกันด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะพอดีลงตัวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งโดยเฉพาะของงานศิลปะประเภทนั้น ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดอารมณ์สุนทรียะที่ละเอียดอ่อนอย่างที่สุดที่เป็นเอกลักษณ์ และมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้ชม โดยไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงบริบทสังคมหรือวัฒนธรรม อย่างไรก็ดี มีการตั้งคำถามว่าการแต่งหน้าเป็นศิลปะหรือไม่ จากการที่ได้กล่าวถึงแนวคิดศิลปะข้างต้น จะได้นำแนวคิดเรื่องศิลปะมาทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งหน้า การแต่งหน้าถือว่าเป็นศิลปะ บทความนี้ในมุมมองของผู้วิจัยมีเหตุผลว่าควรใช้แนวคิดของไคลฟ์ เบลล์ มากกว่าของโครเซ่ และตอลสตอย โดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับรูปทรงแห่งนัยยะ เพราะ 1.การแต่งหน้าเน้นประเด็นความสำคัญของรูปแบบที่สำคัญที่องค์ประกอบเชิงศิลปะเช่น เส้น สี รูปทรง พื้นผิว ซึ่งมองข้ามเนื้อหาหรือความหมายอื่น ๆ 2.การจัดวางองค์ประกอบ ความสัมพันธ์องค์ประกอบจะต้องสอดคล้องกลมกลืนกันด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะพอดี 3.เป็นเอกลักษณ์ และมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้ชม โดยไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงบริบทสังคมหรือวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันผู้วิจัยก็พยายามที่จะลองแนวคิดชองเบเนเด็ดโต โครเซ่ และแนวคิดของตอลสตอย มาอธิบายการแต่งหน้า สองแนวคิดของเบเนเด็ดโต โครเซ่ และตอลสตอยข้างต้น ไม่สอดคล้องกัน เพราะฉะนั้นแนวคิดชองไคลฟ์ เบลล์ เป็นแนวคิดที่เหมาะสมและสอดคล้องกันมากที่สุด

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

จักรพันธ์ มิสุธา. (2555). บทบาทการใช้การแต่งหน้าเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย.

จรูญ โกมุทรัตนานนท์. (2540). สุนทรียศาสตร์ ปัญหาเบื้องต้นในปรัชญาศิลปะและความงาม. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร : ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต.

นพพล จันทร์กลิ่น. (2545.). วีดิทัศน์เพื่อการฝึกอบรมเรื่องการแต่งหน้า. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรอุตสาหกรรมมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย

นิพาดา เทวกุล. (2537). ธรรมชาติหรือลักษณะทั่วไปของสุนทรียศาสตร์. ศิลปกรรมศาสตร์, ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 มิถุนายน-กันยายน. หน้า 15.

พ่วง มีนอก. (2536). สุนทรียศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาปรัชญาและศาสนา, มหาวิทยาลัยรามรามคำแหง.

วราภรณ์ โอภาโส. (2564). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น เรื่องศิลปะการแต่งหน้าเพื่ออาชีพสำหรับนักศึกษากลุ่มวิชางานเสริมสวย. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต.

ราชบัณฑิตยสถาน. 2530. พจนานุกรมศัพท์ศิลปะ อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: บริษัทเพื่อพิมพ์ จำกัด.

Clive Bell, 1987, Art, First published, (Great Britain: Oxford University Press.

Leo Tolstoy, What is Art ?, trans Alymer Maude in Tolstoy on Art. (Oxford University Press, 1924) p. 165. Quoted in Monroe C. Beardsley, Aesthetic: From Classical Greece to the Present., p. 307-308

Harell, J. (edit.), (2005). History of Aesthetics. London: Continuum International Publishing Group.