การพัฒนาทักษะและเครือข่ายครูในการสร้างสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ช่วยส่งเสริมเยียวยาจิตใจแก่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) ศึกษาสภาพปัญหาทักษะทางด้านการสื่อสารจำเป็นสำหรับครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2) พัฒนาทักษะการสื่อสารและการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ช่วยส่งเสริมเยียวยาจิตใจแก่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่ให้แก่คุณครู และ 3) สร้างเครือข่ายครูในการเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บนโลกออนไลน์เพื่อเป็นพื้นที่กลางในการหนุนเสริมชุมชนทางการศึกษาเพื่อสันติภาพ/สันติสุข กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และสภานักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ประกอบด้วยการสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษาพบว่า
- การพูดคุย การสื่อสาร ตลอดจนการสร้างสรรค์สื่อเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจ ครูไม่สามารถสร้างการดึงดูดให้นักเรียนมีความรู้สึกลืมภาพความทรงจำในเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนส่วนใหญ่ใช้การสื่อสารโดยใช้หลักธรรมคำสอนทางศาสนาเพื่ออธิบายต่อสถานการ์ที่เกิดขึ้นโดยการปลอบประโลมจิตใจ
- หลังการพัฒนาทักษะการสื่อสารและการผลิตสื่อ ครูมีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนาทักษะโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนหลัง 3.79 (S.D.= 0.72) และค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อน 3.61 (S.D. = 0.87) แสดงว่าการพัฒนาทักษะและเครือข่ายครูในการสร้างสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ช่วยพัฒนาทักษะด้านทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับครู ด้านการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และด้านเครือข่ายครูในการเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์บนโลกออนไลน์ของครูในโรงเรียนทีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ได้เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
- ความพร้อมที่ครูและโรงเรียนสามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยระบบการในการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียนที่มีข้อจำกัดอาจดำเนินการไปไม่ราบรื่นมากนัก ทั้งนี้การสร้างเครือข่ายจึงขึ้นอยู่กับรูปแบบของการหนุนเสริมทางการศึกษาในโรงเรียน ที่เน้นในเรื่องของแลกเปลี่ยนและการเป็นที่ปรึกษา และการเป็นผู้ฝึก (Coaching) ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะนำมาสู่ประโยชน์ของการสร้างเครือข่ายของครูทั้งในแง่ของการมีทักษะชีวิต การคิดเชิงบวก การมีผู้ให้คำปรึกษาและผู้รับฟังที่ดี
Article Details
References
Jitpiromsri, S. (2022). southern border provinces Pattani 2547-2564 : As we step into the year nineteen, where will peace take us in 2565 ?. [Online]. Available : https://deepsouthwatch.org/th/node/12816. [2565, December 19].
Khema, P. (2022). Development of Potential with the Outward Mindset Activity Set of Teacher and Educational Personnel in Phichai School Under Phitsanulok Uttaradit. Master of Education Independent Study in Educational Administration, Naresuan University.
Mahasuradej, A. (2018). Development of Teachers for the 21st Century Learning Management of Kotchapuakanusorn School under The Bangkok Metropolitan. Journal of Public Administration, 1 (2), 26-37.
Oranop na Ayutthaya, C. (2017). Communication Literacy and Mobilization of Reform Agenda in Thai Society in the Digital Age. Bangkok : Suthiparithat Journal.
Phothisat, C. (2012). Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD) Symptoms in Children of Police Officers Working in the Unrest Areas of the Southern Provinces of Thailand. Journal of the Psychiatric Association of Thailand, 57 (3), 323-334.
Saingthong, L. and Techawattanasiridumrong, W. (2021). Present the Guidelines for Developing Learning Management Skills of 21 Century Teacher in Primary Education Service Suphanburi Area Office 1. Journal of Legal Entity Management and Local Innovation, 7 (2), 73-85.
Tohmeena, P. (2013). Mental remedy for people affected by the unrest in the southernmost provinces of Thailand. Journal of Mental Health of Thailand, 21 (3), 171-184.
Vaivanjit, S., et al. (2019). Research Report on the Model and System of a Safe and Creative Media Environment for Healing and Promoting Good Mental Health among Children and Youth in Educational Institutions to Mitigate the Impact of Violence in the Southern Border Provinces. Bangkok : Safe and Thai Media Fund