A Structural Equation Model of the school administrators’ role influencing the Professional Learning Community of School Teachers under the Secondary Educational Service Area Office
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research were 1) to construct a structural equation model of the school administrators’ role influencing the professional learning community of school teachers under the Secondary Educational Service Area Office; and 2) to confirm the structural equation model. The population consisted of 2,302 teachers and administrators under the Secondary Educational Service Area Office by using Simple random sampling. The sample group of administrators and teachers of 40 schools was one sample of administrators of each school and 8 samples of teachers from each school, a total of 360 samples. The research instrument was 2 questionnaires, namely school administrators and teachers. The results of the research were found that 1) in the aspect of a structural equation model of the school administrators’ role influencing the professional learning community of school teachers under the Secondary Educational Service Area Office, the equation model was created using Mplus program which consisted of 3 models: 1.1) random intercept multiple structure equation model, full model; 1.2) multiple structure equation model of multiple group classified by sex; and 1.3) multiple structure equation model of multiple group classified by school size. The results of the analysis at the first level found that teachers' organizational commitment, attitude, and teamwork positively influenced towards the professional learning community of teachers and each teacher had a different teaching professional learning community. The results of the analysis at the second level found that in the school level, the role of school administrators as a whole had no effect on being a professional learning community and each school had the same professional learning community; 2) on confirming the structural equation model, it was found that there was consistent with the empirical data. It was also found that the chi-square value was equal and statistically significant : df = 3, p = 0.0404, CFI = 0.994, TLI index = 0.976, RMSEA = 0.074, SRMRw = 0.001, SRMRb = 0.013, and /df =2.762.
Article Details
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
References
ฐาปณัฐ อุดมศรี . (2558). รูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน. (ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณรงค์ฤทธิ์ อินทนามง. (2553). การพัฒนาหลักเทียบสำหรับการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูในโรงเรียน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบันฑิต สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา). คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณัฐิกา นครสูงเนิน สมศักดิ์ สีดากุลฤทธิ์ และ สมาน นาวาสิทธิ์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารกับการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 10(31), 7-18.
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2535). การวิเคราะห์ประมาณค่าส่วนประกอบความแปรปรวน (Analysis of Variance Component Estimation), ข่าวการวิจัย, 15(4), 9-14.
บุญมี เลิศศึกษากุล, พิมพ์อร สดเอี่ยม, และ สุคนธ์ สุคนธรัตนสุข. (2557). เสนอรูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้แบบวิชาชีพในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 10(2), 30-39.
พิมพ์อร สดเอี่ยม. (2555). การพัฒนาตัวแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้แบบมืออาชีพในโรงเรียนมัธยม. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, 12(1), 163-175.
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2561). วิเคราะห์องค์ประกอบของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC). วารสาร Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศึกษาศาสตร์ และศิลปะ, 11(3), 2774-2791.
วทัญญู ภูครองนา, วิชัย วงษ์ใหญ่, สงวนพงศ์ ชวนชม และศรุดา ชัยสุวรรณ. (2558). ตัวแปรที่ส่งผลต่อความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารงานวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 5(1), 39-49.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด และเอกรินทร์ สังทอง. (2557). โรงเรียนแห่งชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ. วารสารวิทยบริการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 25(1), 93-102.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด, เอกรินทร์ สังทอง และชวลิต เกิดทิพย์. (2557). รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 บริบทโรงเรียนในประเทศไทย. วารสารหาดใหญ่วิชาการ, 12(1), 123-134.
ศยามล อินสะอาด, ฐิติยา เนตรวงศ์, และศิวนิต อรรถวุฒิกุล. (2560). ศึกษาการพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อสร้างชุมชนนักปฏิบัติในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ไอซีทีของครูสังกัด สพฐ. Veridan E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษศาสตร์ สังคมศึกษา และศิลปะ, 10(2), 795-995.
ศิวกร รัตติโชติ. (2561). แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพเพื่อการวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน: วิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธีการ. (ปริญญานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยและพัฒนาศักยภาพมนุษย์). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ. (2560). บทวิเคราะห์การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ประจำปี 2017 - 2018 โดย World Economic Forum: WEF. เข้าถึงได้จาก http://sti.or.th.
สิริพันธุ์ สุวรรณมรรคา. (2556). การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู โดยใช้กระบวนการชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง. เข้าถึงได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=aQzyUmQnn Q.
สุขุม มูลเมือง และคณะ. (2561). เอกสารประกอบการสอนสถิติขั้นสูงเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์และทางการศึกษา การวิเคราะห์พหุระดับ การประยุกต์ใช้โปรแกรม Mplus. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี.
สุขุม มูลเมือง. (2558). โมเดลสมการโครงสร้าง: การประยุกต์ใช้โปรแกรม AMOS และ Mplus. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี.
อำไพ นงค์เยาว์, ชนม์ชกรณ์ วรอินทร์ และอนุชา กอนพ่วง. (2560). รูปแบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนานักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารการวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน, 10(1), 132-143..
Bollen, K. A. (1989). Structural equations with latent variables. New York: Wiley.
Diamantopoulos, A., & Siuaw, J. A. (2000). Introduction to LISREL: A guide forthe uninitiated. London: SAGE Publications, Inc,.
Horton, J. N., & Martin, B. N. (2009). The role of district administration in the establishment of professional learning communities. Columbia: University of Missouri-Columbia.
Schumacker, R. E., & Lomax, R. G. (2010). A beginner’s guide to structural equation modeling. (3rd Edition). New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates.
Willis, J. C., & Templeton, N. R. (2017). Investigating the establishment and sustainability of professional learning communities in rural east Texas: The principal’s perspective. Rural Educator, 38(1), 30-37.