Development of Reading Ability by Using Extensive Reading Activities for Prathomsuksa 6 Students
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research article were 1) to develop a learning management plan using extensive reading activities for Prathomsuksa 6 Students to be effective according to the criteria of 80/8; and 2) to compare reading abilities before and after learning management using extensive reading activities for Prathomsuksa 6 Students. The target group consisted of 14 Prathomsuksa 6 Students who were selected by purposive sampling. The instruments used for data collection were a learning management plan for extensive reading activities for 20 hours with a quality assessment result of 4.58, which was at the most appropriate level, and a reading ability test with 30 multiple-choice questions with 4 options, with a reliability value of 0.94. Data were analyzed using basic statistics, including percentage, mean, standard deviation, and t-test. The results of the research found that 1) the learning management plan using extensive reading activities for Prathomsuksa 6 Students was 81.52/80.28, which met the specified criteria of 80/80; 2) Prathomsuksa 6 Students were developed their reading skills using extensive reading activities, resulting in significantly higher reading skills than before learning at a statistical level of .05, i.e., the average score before teaching was 17.36 and the average score after teaching was 24.14. Therefore, organizing this activity can improve reading skills and reduce the causes that were obstacles to the development of reading skills of the target group according to the school context.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
เบญจพร ศรีใหญ่. (2564, 24 เมษายน). ปัญหาการอ่านของนักเรียนในตำบลดอนแรด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์. (ศุภนิดา สิงห์เขาภู, ผู้สัมภาษณ์).
ศักดิ์เกรียงไกร ปัญญาวัตร. (2548). การใช้กิจกรรมการอ่านแบบกว้างขวางเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านภาษาอังกฤษ การเรียนรู้ด้วยตนเองและความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ศุภิสรา กุมาทะ. (2562). ผลการใช้กิจกรรมการอ่านแบบกว้างขวางที่มีต่อการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สมชาย หอมยก. (2550). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. ปทุมธานี : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
สิตรา ศรีเหรา. (2560). การพัฒนาความสามารถทางการอ่านเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการอ่านแบบกว้างขวาง. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). วิทยาลัยครุศาสตร์ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
อมฤตา โอมณี. (2558). การใช้วิธีการอ่านแบบกว้างขวางในการพัฒนาสมรรถนะการอ่านภาษาอังกฤษ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทัศนคติและนิสัยการอ่านภาษาอังกฤษ. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.