นโยบายทางเศรษฐกิจและกฎหมายในการใช้หุ่นยนต์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ: กรณีศึกษาการเปรียบเทียบระหว่างสหภาพยุโรป, แอฟริกาใต้ และประเทศไทย

Main Article Content

Arachamon Pichetworakoon
ณิชนันท์ คุปตานนท์
สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ

บทคัดย่อ

ยุโรปถือเป็นภูมิภาคที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหุ่นยนต์ที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นในระดับอุตสาหกรรมหรือระดับมืออาชีพ รวมถึงการมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและใช้แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์สำหรับบริษัทต่าง ๆ แต่น่าแปลกที่ภูมิภาคแอฟริกาและประเทศไทยซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์กลับมีความก้าวหน้าที่ดีในการใช้และพัฒนาหุ่นยนต์ในด้านการบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองภูมิภาคนี้ยังคงมีประเด็นทางนโยบายที่ไม่ชัดเจนและควรได้รับการแก้ไขอยู่หลายประการ เช่น แม้ว่าหุ่นยนต์ทางการแพทย์จะแสดงศักยภาพที่ดีโดยการมีส่วนในกระบวนการบำบัดต่าง ๆ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ข้อจำกัดดังกล่าว ได้แก่ นโยบายทางเศรษฐกิจ, กรอบของกฎหมาย, ความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว, และความรับผิดชอบทางศีลธรรม โดยอุปสรรคที่เห็นได้ชัด คือ นโยบายด้านกฎหมายและการลงทุนที่ควบคุมกิจกรรมเกี่ยวกับหุ่นยนต์ได้ถูกบัญญัติและถูกบังคับใช้โดยองค์กรต่าง ๆ แยกกัน สิ่งนี้จึงไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังรวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางหุ่นยนต์ด้วย ดังนี้ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะสร้างเทคโนโลยีหุ่นยนต์ขั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปเพียงใด แต่การออกกฎหมายยังคงล้าหลังอยู่ บทความนี้จึงมุ่งศึกษาในทางสังคมศาสตร์, จริยธรรม, กฎหมาย และนโยบายการตลาดเพื่อหาช่องทางในการให้มนุษย์และหุ่นยนต์ทำงานร่วมกันได้ โดยเน้นที่การประยุกต์ใช้กฎหมายและระเบียบทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมสถานะของหุ่นยนต์ และเพื่อนำทั้งสองภูมิภาคไปสู่แนวหน้าทางด้านสังคม-วิทยาศาสตร์ โดยเป็นการศึกษาโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงเอกสารและระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติ ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจและหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านกฎหมายต้องมีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าวร่วมกับผู้ผลิตเพื่อกำหนดว่ากฎหมายและนโยบายการตลาดควรเป็นอย่างไรเพื่อให้ตอบสนองต่อหุ่นยนต์ทางการแพทย์อย่างเหมาะสม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Pichetworakoon, A., คุปตานนท์ ณ., & งามชื่นสุวรรณ ส. (2021). นโยบายทางเศรษฐกิจและกฎหมายในการใช้หุ่นยนต์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ: กรณีศึกษาการเปรียบเทียบระหว่างสหภาพยุโรป, แอฟริกาใต้ และประเทศไทย. วารสารนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 5(2), 21–43. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/lawcrru/article/view/246522
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

Brynjolfsson, Erik, and Andrew McAfee. Race Against the Machine. Lexington: Digital Frontier Press, 2011.

Chulalongkorn University Intellectual Property Institute. Intellectual Property Innovation Driven Enterprise. Bangkok: Chulalongkorn University Intellectual Property Institute, 2017.

Congressional Research Service. “Defense Primer: U.S. Policy on Lethal Autonomous Weapon Systems.” https://fas.org/sgp/crs/natsec/IF11150.pdf accessed January 13, 2020.

International Telecommunication Union. United Nations Activities on Artificial Intelligence (AI) 2019. Geneva: International Telecommunication Union, 2019.

Jerome A. Singh, Michelle Govender, and Edward Mills, “Do human rights matter to health?” Lancet, 307, 9586 (2007), 521-527.

Organisation for Economic Co-operation and Development. OECD Science, Technology and Innovation Outlook 2016. Paris: OECD Publishing, 2016.

Pedro T. Ramirez et al. “Minimally Invasive versus Abdominal Radical Hysterectomy for Cervical Cancer.” The New England journal of Medicine, 20, 380 (2019), 793-795.

The European Commission for the Efficiency of Justice. European Ethical Charter on the Use of Artificial Intelligence in Judicial Systems and Their Environment. Strasbourg: Council of Europe, 2019.

The Thailand Board of Investment. “Thailand’s automation and robotics.” https://www.boi.go.th/ upload/content/automation_5a4fa9cec04d6.pdf. accessed January 13, 2020.

United Nations Conference on Trade And Development. Information Economy Report 2017: Digitalization, Trade and Development. Geneva: United Nation Publication, 2017.