แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาการบริหารงานบุคคลขอสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี 2) เพื่อศึกษาวิธีปฏิบัติด้านการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี และ 3) เพื่อเสนอแนวทาง การพัฒนาการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้กลุ่มประชากรทั้งหมด ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2563 จำนวน 213 คน แบ่งเป็น ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 12 คน ครูจำนวน 166 คน กรรมการสถานศึกษาจำนวน 45 คน และเครื่องมือที่ใช้ในวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัญหาการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านการจัดทำแผนอัตรากำลัง ด้านการสรรหา คัดเลือก และบรรจุแต่งตั้งบุคลากร ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร และด้านการพัฒนาบุคลากร 2) วิธีปฏิบัติด้านการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี ในส่วนการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู พนักงานครู และบุคลากรทางการศึกษาท้องถิ่น ในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี มีความสอดคล้องตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและสอดคล้องกับมาตรฐานและหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 3) แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครอุบลราชธานี 3.1) ด้านการจัดทำแผนอัตรากำลัง ควรมีการประชุมเพื่อประเมินความต้องการอัตรากำลังทุกภาคเรียน การวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่งในรูปแบบของคณะกรรมการ 3.2)ด้านการสรรหา คัดเลือก และบรรจุบุคลากร ควรมีการสำรวจความถนัดและความต้องการของครูในการบรรจุ 3.3) ด้านการการพัฒนาบุคลากร ควรมีการวางแผนปรับปรุงบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันในการบริหารงานบุคคล และ 3.4) ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร ควรมีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นธรรมโดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนอธิบายแก่ผู้ปฏิบัติงานให้เข้าใจ ควรมีการแจ้งหลักเกณฑ์
Article Details
References
แจ่มจันทร์ ศรีพาแลว. (2559). ปัญหาการบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนตำบล
ในเขตพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย
ราชภัฏมหาสารคาม.
ดิษย์ชัย แก่นท้าวและคณะ. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนสังกัดองค์การ
บริหารส่วนจังหวัด. บัณฑิตวิทยาลัย :มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ธงชัย สันติวงษ์. (2542). การบริหารงานบุคคล. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนา
พานิช.
ปฐมชัย มุลิกะบุตร. (ม.ป.ท.). ปัญหาการบริหารงานบุคคลของเทศบาลตำบลศรีสุนทร
อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต. ภูเก็ต : เทศบาลตำบลศรีสุนทร.
ปริวัตร ปังอุทา. (2564). การศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารงานบุคคลของโรงเรียนใน
สังกัดเทศบาลจังหวัดอุบลราชธานี. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ศุภามาศ แก้วดวงดี. (2553). แนวทางการพัฒนาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบล
หนองเขียด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย ขอนแก่น.
สมาน รังสิโยกฤษฎ์. (2540). ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล. พิมพ์ครั้งที่ 18.
กรุงเทพฯ : น่ากังการพิมพ์.
สรณะ เทพเนาว์. (2557). หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน, ป 65 ฉ 22522 : 10.
Cooper,William R. (1991) “A Study of the Merit Reward for Teacher Programs
in Hanover,” Dissertation Abstracts International. 8, 7: 1143-A.
Mary, R. (1989) Resource teacher personnel development need: Differences in
perceptions among special education resource teachers and their
district leadership personnel. Utah: Brigham Young University,.