สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาการบริหารโรงเรียน ขนาดเล็กกลุ่มโรงเรียนเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาการบริหารของโรงเรียนขนาดเล็ก กลุ่มโรงเรียนเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระเบียบวิธีวิจัยกรณีศึกษา (Case study research) โดยศึกษาโรงเรียนในกลุ่ม อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน
3 โรงเรียน เลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) แหล่งข้อมูลในการศึกษา คือ 1) แหล่งบุคคล ได้แก่ ผู้บริหาร 3 คน ครู 11 คน 2) เอกสาร 3) การสังเกต เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ใช้การเก็บข้อมูลเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) 2) แบบบันทึกข้อค้นพบจากเอกสารและการสังเกต แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์แยกประเด็น เพื่อนำเสนอสภาพปัญหาและความต้องการในพัฒนาการบริหารของโรงเรียนขนาดเล็ก ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาการบริหารโรงเรียนขนาดเล็กกลุ่มโรงเรียนเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า 1) ผู้ปกครองขาดความเชื่อมั่นในโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนมีครูไม่ครบทุกชั้นเรียน นักเรียนจำเป็นต้องเรียนแบบคละชั้นเรียน ส่งผลให้ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่มีความพร้อมและครบครันมากกว่า เมื่อนักเรียนจำนวนลดลง โรงเรียนจึงถูกตัดอัตราตำแหน่งผู้บริหาร ไม่ได้รับการจัดสรรครู และได้รับจัดสรรงบประมาณน้อย จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นของผู้ปกครองเพื่อให้มีจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น 2) โรงเรียนขาดผู้บริหารสถานศึกษาโดยตรง ทำให้การบริหารงานนั้นขาดผู้นำที่เป็นทางการขาดผู้ประสาน สนับสนุน ส่งเสริม และเสริมแรง เพื่อนำองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติได้จริง เมื่อไม่มีผู้บริหารแบบเป็นทางการทำให้ขาดการติดตามผล การจัดการเรียนการสอนจึงยังคงเป็นรูปแบบเดิม ไม่มีการเปิดห้องเรียนและเปิดโรงเรียนตามแนวทางโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 3) บุคลากรมีจำนวนน้อย ครูส่วนใหญ่เป็นครูบรรจุใหม่ ประสบการณ์ทำงานในโรงเรียนขนาดเล็กไม่มากนัก ทำให้การจัดกิจกรรมการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้เป็นไปได้ยาก โรงเรียนจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากภายนอกเข้ามาช่วยเหลือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน 4) ด้านภาระงานอื่น ๆ ที่มีจำนวนมากและครูไม่มีบุคลากรฝ่ายสนับสนุนทำให้คุณครูขาดเวลาในการจัดแผนการเรียนรู้ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
Article Details
References
กลุ่มสารสนเทศ สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2566). สถิติข้อมูลทางการศึกษา ปีการศึกษา 2566/1. http://www.bopp.go.th/?page_id=3544
พัชรินทร์ จันทาพูน. (2555). การพัฒนากลยุทธ์การบริหารเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนา
โรงเรียนขนาดเล็ก. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มานาบุ ซาโต. (2559). Enhancing Quality of Learning Through Collaboration:
Challenges of School As Learning Community. https://www.educathai.com/events/conference/28
รชยา อังกูรวัฒนกิจ และชวลิต เกิดทิพย์ (2565). การวิเคราะห์องค์ประกอบค่านิยมหลักโรงเรียน
ที่เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พื้นฐาน ในภาคใต้. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ศิริพงษ์ กลั่นไพฑูรย์. (2564). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของ
ผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2565). ขนาดและโครงสร้างของประชากรตามอายุและเพศ.
http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx
สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก.
https://www.obec.go.th/wp-content/uploads/2018/10/OBECPolicy62.pdf
อนงค์กาญจน์ ศรีจันทร์. (2563). แนวทางพัฒนาการบริหารโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลตาม
แนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bielaczyc, K, and Collins, A. (1999). Learning community in classroom
reconceptualization of education practice. Instructional-design theories
and models: A new paradigm of instructional theory.
EDUCA. (2564). SLC - School as Learning Community.
https://www.educathai.com/knowledge/articles/480
Martel, L. D. (1993). Building a Learning Community: School leaders and their
organizations need to share a vision to challenge all young minds.
School Administrator, 50(6), 22-27.
Miles, M. B. a. H., A. M. (1994). Qualitative data analysis: An expanded
sourcebook. Sage Publications.