แนวทางการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย

Main Article Content

ชลธิชา กลมเกลียว
ประมุข ชูสอน

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย  2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย ผู้บริหารและครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย ใช้เกณฑ์สำหรับกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครซี่และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 290 คน โดยระยะที่ 1 เป็นการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม 0.998  วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติ ค่าความถี่  ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และจัดเรียงลำดับความต้องการจำเป็น (PNIModified )   ระยะที่ 2 การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสัมภาษณ์การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อหาและนำเสนอโดยวิธีการพรรณนา


          ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืน โดยรวมอยู่ในระดับน้อย และสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าระดับสภาพที่เป็นจริงมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าระดับสภาพที่พึงประสงค์เป็นรายด้านทุกด้าน โดยความต้องการจำเป็นในแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืน องค์ประกอบที่มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด ลำดับที่ 1 ได้แก่ ด้านวางแผนการพัฒนาที่ยั่งยืน  (PNIModified= 1.00) ลำดับที่ 2 ได้แก่ ด้านกำกับและติดตามอย่างเป็นระบบ   (PNIModified =0.92) และลำดับที่ 3 ได้แก่ ด้านจัดการเรียนการสอนเชิงรุก   (PNIModified = 0.91)


 


ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาที่ยั่งยืน  พบว่าควรดำเนินการต่อไปนี้


1) การวางแผนการพัฒนาที่ยั่งยืน  ผู้บริหารควรกำหนดทิศทางขององคกรที่มีความชัดเจน  มีการวางแผนเชิงกลยุทธ์ โดยมีผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมวางแผนและกำหนดทิศทางขององคกรร่วมกัน เพื่อความเข้าใจร่วมกันถึงแผนการพัฒนาสถานศึกษาและบรรลุจุดประสงค์ที่วางไว้


2) จัดการเรียนการสอนเชิงรุก  ผู้บริหารควรส่งเสริมการออกแบบหลักสูตรสถานศึกษา  ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  ให้ครูได้หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการสอน ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือออนไซด์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทั้งในชั้นเรียนและออนไลน์สนับสนุนให้ผู้เรียนกล้าแสดงออกเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของตัวผู้เรียน


3) ส่งเสริมบุคลากรอย่างสร้างสรรค์  ผู้บริหารควรส่งเสริมให้มีการสร้างขวัญและกำลังใจให้ครูมีแรงกำลังใจในการทำงาน  ส่งเสริมการเรียนรู้การพัฒนาตัวเองทั้งด้านการใช้สื่อเทคโนโลยี ด้านการใช้ภาษาที่สอง  และด้านการสร้างนวัตกรรม


4) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง   ผู้บริหารควรส่งเสริมให้ครูใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และก้าวทันโลกปัจจุบัน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน  ควรพัฒนาแหล่งเรียนรู้  และส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม


5) กำกับและติดตามอย่างเป็นระบบ  การวัดและประเมินผลต้องชัดเจน  และสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลที่เหมาะสม   ประเมินผลตามสภาพจริง และนำผลการประเมินไปสู่การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง   เพื่อการพัฒนาตัวผู้สอน ผู้เรียน และสถานศึกษาต่อไป


6) รับผิดชอบต่อสังคม ผู้บริหารควรส่งเสริมให้มีการร่วมมือกันระหว่างสถานศึกษา  ผู้ปกครองและชุมชนในการอำนวยความสะดวกการเรียนรู้ของผู้เรียนตามบริบทของชุมชน  เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนได้แสดงความคิดเห็นกับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และส่งเสริมให้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของตัวผู้เรียน

Article Details

บท
Research Articles

References

กระทรวงศึกษาธิการ(2565).แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา พ.ศ.2565. กลุ่มยุทธศาสตร์การศึกษาสำนักงานศึกษาธิการภาค 3.

กรัณย์พัฒน์ อิ่มประเสริฐ (2565) ส่วนประสมทางการตลาดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.วารสาร บริหารธุรกิจและนวัตกรรม มทร. พระนคร (JBI) ปีที่ 1 ฉบับที่ 2เดือน กรกฎาคม- ธันวาคม 2565.

เกษร เกษมชื่นยศ.(2563). การพัฒนาของไทยตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน. สาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์.คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม.

จักรพงศ์ มัตสยะวนิชกูล.(2561).กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน.วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย.ปีที่ 10 ฉบับที่ 2(กรกฎาคม – ธันวาคม 2561).

จักร์กฤษ ทองมี.(2562).การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามหลักไตรสิกขา โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการจัดการศึกษาที่ยั่งยืนในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลเมืองหนองสำโรง จังหวัดอุดรธานี.Journal of Buddhist Education and Research.Vol. 5 No. 2 July - December 2019.

ชื่นชนก โควินท์.(2561).การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.กรุงเทพ:พริกหวานกราฟฟิค.

ภารดี อนันต์นาวี.(2563).การสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวกับการพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศเพื่อความยั่งยืน.วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2563.

ธงชัย สมบูรณ์.(2562).วาทกรรมการศึกษาไทย.กรุงเทพ:สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นธกฤต วันต๊ะเมล์. (2561). การตลาดเพื่อความยั่งยืน.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปรเมธีวิมลศิริ. (2559). ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อนาคตประเทศไทย เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน. วันที่ค้นข้อมูล 22 ตุลาคม 2562.

พิพิธธนวดี สมคะเณย์ และ ผศ.ดร.ประยูร แสงใส (2561).การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น.

พิญนิชาร์ โสคำ (2562) สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาในการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๑.วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ฯ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๓ กันยายน-ธันวาคม ๒๕๖๒.

มูลนิธิมั่นพัฒนา, เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:http://www.tsdf.or.th/th/semi-narevent/10268 [๑๓ กันยายน ๒๕๖๐].

วนิดา เสร็จกิจ.(2563). การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในบริบทของการพัฒนาประเทศ.สาขารัฐศาสตร์ โครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ศุภกฤต ดิษฐสุวรรณ.(2565).การพัฒนากลยุทธ์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สุวรรณภูมิให้เป็นสถานศึกษาชั้นนาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน.Journal of Roi Kaensarn Academi.Vol. 8 No 2 February 2023.ศูนย์บริการวิชาการเศรษฐศาสตร์(ERTC). (2562). โครงการวิจัยและสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ ยั่งยืน (SDG Move).

สัมฤทธิ์ อธิจิตฺโต.(2561).รูปแบบการบริหารการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของโรงเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น ตำบลห้วยโป่ง อาเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี.ปริญญาพุทธศาสตร มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สุรพี เทศสมบูรณ์.(2561).แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในการบริหารสถานศึกษาเพื่อฟื้นฟูศีลธรรมตามวิถีพุทธกรณีศึกษาโรงเรียนตะวันชัยวิทยา.วารสารราชพฤกษ์.ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2561) 88-97.