การจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1.ศึกษากระบวนการจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท 2.ศึกษาเงื่อนไขความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท 3. นำเสนอแนวทางในการจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) ใช้การสัมภาษณ์ แบบเจาะลึก (in-depth interview) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key informant) ด้วยรูปแบบการแนะนำต่อๆกัน (snowball sampling ) ผู้ให้ข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องในการจัดการเครือข่ายของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท รวมทั้งสิ้น 36 คน เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์เชิงลึก (in- depth Interview) การสังเกตการณ์อย่างมีส่วนร่วม (Participant Observation) การสังเกตการณ์อย่างไม่มีส่วนร่วม (Non-participant Observation) และการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ผลการวิจัย พบว่า กระบวนการจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาทประกอบด้วย การกำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกัน การจัดองค์การ การจัดการข้อมูลข่าวสารและการติดต่อสื่อสารการมีส่วนร่วมของสมาชิกเครือข่าย และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาสมาชิกเครือข่าย ในส่วนเงื่อนไขความสำเร็จใน คือ การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การขยายช่องทางการตลาด แรงงานในการผลิตและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ การบูรณาการความร่วมมือ การขยายสมาชิกเครือข่ายและการธำรงรักษาเครือข่าย และในส่วนปัญหาอุปสรรค คือ ช่องว่างระหว่างอายุของสมาชิก การขาดแคลนทรัพยากรและงบประมาณสนับสนุน ขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาคุณภาพและการแปรรูปผลผลิต ขาดความต่อเนื่องในการมีส่วนร่วมของสมาชิกเครือข่าย ขาดการจัดการข้อมูลข่าวสารและรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นระบบ
แนวทางการจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาในจังหวัดชัยนาท คือ 1.การที่สมาชิกมีการกำหนดร่วมกัน 2. มีการจัดโครงสร้างองค์การในรูปแบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ รวมถึงมีการจัดโครงสร้างในรูปแบบแนวดิ่งกับแนวราบ และมีการแบ่งงานตามความถนัด 3. จัดการข้อมูลข่าวสารและการติดต่อในรูปแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ 4. การมีส่วนร่วมของสมาชิกเครือข่ายในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ 5. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาสมาชิกเครือข่ายภายในและภายนอกเครือข่าย 6. มีการพัฒนาคุณภาพผลผลิตตามข้อตกลงร่วมกันและตามมาตรฐานระบบเกษตรที่ดีที่เหมาะสม (GAP) 7.มีการขยายช่องทางการตลาดขยายช่องทางการตลาดด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมและมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย 8.มีการใช้แรงงานคนและมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ 9. มีการ บูรณาการความร่วมมือในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ 10. มีการขยายสมาชิกเครือข่ายโดยเริ่มจากเครือญาติ และคนในพื้นที่ผ่านรูปแบบบอกปากต่อปากและมีการธำรงรักษาเครือข่ายโดยจัดให้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไกสร้างแรงจูงใจและกระจายผลประโยชน์ให้กับสมาชิกอย่างทั่วถึง
Article Details
References
จินตนา กาญจนวิสุทธิ์. (2558) . เส้นทางวิสาหกิจชุมชน เพื่อการพัฒนาอาชีพและการพึ่งพาตนเอง.กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
เพชรา บุดสีทา .(2564). การพัฒนาช่องทางจัดจําหน่ายโดยใช้การตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ตําบลท่าขุนราม อําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร. วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีปีที่ 8 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม- ธันวาคม 2564
นิภาพรรณ เจนสันติกุล.(2561). แนวทางการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี." วารสารอาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์, 18, 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2561), หน้า 95 – 114
ประกอบ มีโคตรกองและคณะ. (2564).การสร้างเครือข่ายการพึ่งตนเองของเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.วารสารวิจัยพิมลธรรม ปีที่ 8 ฉบับ 2 หน้า 17-26.
ประหยัด มะโนพะเส้า (2556)กระบวนการขับเคลื่อนเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นเครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร จังหวัดลำพูน.วารสารแก่นนคร ปีที่ 41 ฉบับที่ 1 (2556): มกราคม-มีนาคม หน้า 17-26
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช .(2562). สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และการจัดการการตลาด.นนทบุรี.สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วนิชย์ ไชยแสง และคณะ .(2553). รายงานวิจัยเรื่องการศึกษาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการเชื่อมโยงเครือ ข่ายวิสาหกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมยางพาราในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ศุภฤกษ์ ธาราพิทักษ์วงศ์ และคณะ.(2562).รายงานการวิจัยเรื่องการยกระดับผลิตภัณฑ์และสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
สนิทเดช จินตนา .(2562).ความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานรากในการพึ่งพาตนเองของวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทย. มหาวิทยาลัยบูรพา
สนิทเดช จินตนา และธีระพงษ์ ภูริปาณิก (2562).ปัญหา ข้อจำกัดและแนวทางในการสร้างความเข้มแข็ง ให้กับวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทย. วารสารการเมือง การบริหารและกฎหมาย มหาวิทยาลัยบูรพา
Bryson and Crosby .(2008). Falling into cross-sector collaboration successfully . In L.B. Bingham & R. O’Leary (Eds.) , Big ideas in collaborative public management (pp.55-78).New York : M.E.Sharpe.
Burke, A. (1999). Communication and development: A practical guide. London : Development Division Department for International Development
Chotray and Stoker. (2009). Governance Theory and Practise: A Cross-Disciplinary Approach. Great British: Palgrave Macmilian.
Goldsmith, S., & Eggers, W. (2004). Governing by network. Washington, DC: Brookings Institution Press.
Lucke, R., & Bartlett, C. (2018). Manager’s Toolkit. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Provan, K., & Kenis, P. (2007). Modes of network governance: Structure, management, and effectiveness. Journal of Public Administration Research and Theory, 18(2), 229-252.
Provan, K. G., & Milward, H. B. (1995). A preliminary theory of interorganizational network effectiveness: A comparative study of four community mental health systems. Administrative Science Quarterly, 40(1), 1-33.
William Poole. (2010). Principles for Reform. FINANCE & DEVELOPMENT, June 2010, Volume 47, Number 2
O’Leary & Vij .(2012). Collaborative public management: Where have we been and where are we going? The American Review of Public Administration, pp 507-522.
Turrini, A., Cristofoli, D., Frosini, F., & Nasi, G. (2010). Networking literature about determinants of network effectiveness. Public Administration, 88(2), 528-550.