การประเมินความต้องการจำเป็นของครูเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ในกลุ่มโรงเรียนสหวิทยาเขตนวมินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานครเขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์สภาพที่เป็นอยู่ของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในกลุ่มโรงเรียนสหวิทยาเขตนวมินทร์ 2) เพื่อวิเคราะห์สภาพที่ควรจะเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในกลุ่มโรงเรียนสหวิทยาเขตนวมินทร์ 3) เพื่อประเมินและจัดลำดับความต้องการจำเป็นของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูโรงเรียนสหวิทยาเขตนวมินทร์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้าราชการครูในโรงเรียนสหวิทยาเขตนวมินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2 จำนวนทั้งสิ้น 250 คน ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดขนาดตัวอย่าง (Sample Size) จากสูตรการหาขนาดของกลุ่มตัวอย่างของ Yamane (1973) โดยประมาณการกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด มีค่าความเชื่อมั่น 95% หรือมีค่าความคาดเคลื่อนที่ 0.05 เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ โดยศึกษาความต้องการจำเป็นของครูเพื่อการได้รับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน จำนวน 3 องค์ประกอบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (frequency) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์ดัชนีความสำคัญของลำดับความต้องการจำเป็น (PNIModified)
ผลการประเมินความต้องการจำเป็นของครูเพื่อการได้รับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโรงเรียนสหวิทยา เขตนวมินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานครเขต 2 จากการวิจัยพบว่า มีค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นอยู่ระหว่าง 0.20 - 0.26 ด้านที่มีบทบาทค่าดัชนีความต้องการจำเป็นเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา (PNIModified = 0.26) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านความสุขในการทำงาน (PNIModified = 0.22) และด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน (PNIModified = 0.20) น้อยที่สุด ตามลำดับ
Article Details
References
กาญจนา คล่องแคล่ว. (2555). การพัฒนากลยทธ์การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลางในจังหวัดกําแพงเพชร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. กำแพงเพชร : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ณรงค์วิทย์ แสนทอง. (2544). การบริหารทรัพยากรมนษย์สมัยใหม่. กรุงเทพมหานคร: เอชอาร์เซ็นเตอร์
นูรียะห์ หะแว. (2564). พฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2. วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
วัชริศ เจริญกุล. (2563). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนบ้านยางสูง. การศึกษาค้นคว้าอิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สุพานี สฤษฎ์วานิช (2549). พฤติกรรมองค์การสมัยใหม่ : แนวคิดและทฤษฎี. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สุระชัย เอี่ยมสะอาด. (2557) การใชอำนาจของผู้บริหารโรงเรียนหัวหินวิทยาคม. การศึกษาค้นคว้าอิสระศึกษา ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์. (2542). พฤติกรรมผู้นำทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณิ
อุทัยวรรณ ศรีรัตน์. (2562). การเป็นโรงเรียนแห่งความสุขของโรงเรียนชุมชนบ้านหนองฝ้าย. การศึกษาค้นคว้าอิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Eisenberg, N. and Neal. (1979). Childern’s moral reasoning about their own spontaneous prosocial behavior. Development psychology, 15(2) : 228-229.
Herzberg, Frederick. (1959). The Motivation to work. New York: John Wiley and Sons.
Herzberg, Frederick. (1982). The Motivation to Work (2nd ed). New York: John Wiley & Sons.
Manion, J. (2003), Joy at work: Crearing a positive work place. Joursal of Nursing Administration, 33(12): 652-655.
Organ. (1987). Organizational Citizenship Behavior: The Good Soldier Syndrome. Massachusetts: Lexington.
Sharon S. Andrew. (2011). S.M.I.L.E.S.: The Differentiating Quotient for Happiness at Work. (Online). http://www.happiestminds.com/whitepapers/smiles-differentiating-quotient-for-happiness-at-work.pdf. February 8 2024
Taro Yamane. (1973). Statistics: an introductory analysis. New York: New York: Harper & Row