การพัฒนาเครื่องมือวัดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐาน ของประเทศไทย

Main Article Content

ปทิตตา เตจะวัน
ณัฐกานต์ ประจันบาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐานของประเทศไทย 2) เพื่อสร้างเกณฑ์ปกติ (Norm) สำหรับการประเมินความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ผลการวิจัยพบว่า 1. เครื่องมือวัดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐานของประเทศไทย แบ่งองค์ประกอบออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่  ด้านการเข้าใจผู้อื่น ด้านการรู้จักส่งเสริมผู้อื่น ด้านการมีจิตใจใฝ่บริการช่วยเหลือ ด้านการรู้จักให้โอกาสผู้อื่น และด้านการตระหนักถึงความคิดเห็นของกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย 25 ตัวบ่งชี้ซึ่งเป็นข้อคำถามจำนวน 25 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC อยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.453 ถึง 0.842 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 และแบบวัดมีความตรงเชิงโครงสร้าง (Chi-squared = 31.625, df = 22, p–value = 0.084, RMSEA = 0.045, CFI = 0.992, TLI = 0.984 และ SRMR = 0.028) 2. การพัฒนาเกณฑ์ปกติ (Norm) ของเครื่องมือวัดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐานของประเทศไทย พบว่า เกณฑ์ปกติ (Norm) ของเครื่องมือวัดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของครูระดับขั้นพื้นฐานของประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ครูมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในระดับสูงมีคะแนนดิบตั้งแต่ 121 คะแนนขึ้นไป มีช่วงคะแนนทีปกติ 58 คะแนนขึ้นไป ครูมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในระดับค่อนข้างสูงมีคะแนนดิบตั้งแต่ 115 ถึง 120 คะแนน มีช่วงคะแนนทีปกติ 52 ถึง 57 คะแนน ครูมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในระดับปานกลาง มีคะแนนดิบตั้งแต่ 106 ถึง 114 คะแนน มีช่วงคะแนนทีปกติ 43 ถึง 51 คะแนน และครูมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในระดับต่ำมีคะแนนดิบน้อยกว่า 105 คะแนน และมีช่วงคะแนนทีปกติน้อยกว่า 42 ตามลำดับ


 

Article Details

บท
Research Articles

References

จุฑาพร แต้ภัคดี. (2561). ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัด

อุบลราชธานี และความเกี่ยวข้องระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของครอบครัว. บัณฑิต

วิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน. (2564). การพัฒนาความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของนิสิตจิตวิทยามหาวิทยาลัย

เกษตรศาสตร์ โดยโปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม. วารสารสังคมศาสตร์และ

มนุษยศาสตร์,47(1), 75-98.

ณัฏฐณี สุขปรีดี. (2565). เข้าใจบริบทของผู้เรียนด้วย Empathy. สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอ ภาค

ทางการศึกษา (วสศ.). https://research.eef.or.th/empathy/

ดาริกา ดวงบุ และทัศน์ศิรินทร์ สว่างบุญ. (2564). การสร้างเครื่องมือวัดทักษะการคิดเชิงบริหาร

(EF) ด้านทักษะพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดนครพนม.

Journal of Kaensarn Academi,6(8), 136-150.

นันทนา สาลี และปิยวรรณ วิเศษสุวรรณภูมิ. (2567). การพัฒนาแบบวัดความสุขในการเรียน คณิตศาสตร์. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา,16(1), 68-92.

มนตรี อินตา. (2562). SOFT SKILLS: ทักษะที่จำเป็นสู่ความเป็นมืออาชีพของครูยุคใหม่. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 20(1), 155-169.

เมธาพร อิ่นคำ. (2564). การพัฒนาเครื่องมือวัดความเป็นผู้ประกอบการของนักศึกษาระดับ

ปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษา.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยนเรศวร

เมษา นวลศรี. (2562). การพัฒนาเกณฑ์ปกติของมาตรวัดความมีจิตอาสาของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระราชูปถัมภ์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ วไลยอลงกรณ์ ในพระราชูปถัมภ์,13(2), 122-135.

รัตนะ บัวสนธ์. (2565). การวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รัฐชญา ล่องเซ่ง. (2560). การพัฒนาเคร่ืองมือวัดความรอบรู้ด้านพฤติกรรมสุขภาพของ ผู้สูงอายุในจังหวัดสงขลา. วารสารครุพิบูล, 4(2), 93-111.

ลิขิต เหง้ามูล. (2564). ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของนักศึกษาสาขาวิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลัยศิลปากร (รายงานการวิจัย). กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2552). ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). ทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ ชีวิตและการทำงาน (Soft Skill) สำหรับผู้เรียน : ผลการศึกษาและแนวทาง

การพัฒนา. https://fliphtml5.com/wbpvz/sosw/basic/151-185

Clark-Carter, D. (2005). Percentiles. In B.S. Everitt & D.C. Howell (eds.), Encyclopedia

of Statistics in Behavioral Science,3, 1539-1540.

Egan, G. (1990). The skilled helper: A systematic approach to effective helping. Thomson Brooks/Cole Publishing Co.

Goleman, D. (1998). Working with Emotional Intelligence. New York: Bantam Books.

Soper, D. (2023). A-priori Sample Size Calculator for Multiple Regression. Free Statistics Calculators index. https://www.danielsoper.com/

statcalc/default.aspx