พุทธจิตวิทยาการพัฒนาตนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญปัญหา และฟันฝ่าอุปสรรคของพนักงานบริษัท
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคตามหลักจิตวิทยาและพุทธศาสนา 2) เพื่อพัฒนาโปรแกรมการพัฒนาตนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคตามหลักพุทธจิตวิทยา 3) เพื่อทดลองและนำเสนอโปรแกรมการพัฒนาตนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคตามหลักพุทธจิตวิทยา ผลวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาและเปรียบเทียบแนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกับความฉลาดในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคตามแนวทางพระพุทธศาสนาและจิตวิทยา พบว่า แนวคิดทางพุทธศาสนานั้นมีความกว้างขวาง ลึกซึ้งมากและจะต้องใช้ความฉลาดความสามารถพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ขณะที่แนวคิดทฤษฎีตามแนวจิตวิทยานั้นมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีความละเอียดลึกซึ้งยังไม่กว้างขวางครอบคลุมเหมือนในทางพุทธศาสนา จึงต้องมีการค้นคว้ากันอีกต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ผู้วิจัยจึงประยุกต์ใช้ทฤษฎีแนวคิดเกี่ยวกับความฉลาดในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค (Adversity Quotient) เป็นทฤษฎีที่ Paul G. Stoltz และหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่เป็นหลักสำคัญ ได้แก่ พละ 5 และอิทธิบาท 4 มาบูรณาการสร้างโปรแกรม 2. ผลพัฒนาโปรแกรมการพัฒนาตนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคตามหลักพุทธจิตวิทยา พบว่า 2.1 องค์ประกอบการพัฒนาโปรแกรมฯ ดังนี้ 1) เนื้อหาวิชาความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค 4 มิติ ประกอบไปด้วย ด้านการควบคุม ด้านสาเหตุและการแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหา ด้านผลกระทบที่จะมาถึง และด้านความอดทน 2) โครงสร้างกิจกรรม แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 รู้เขารู้เรา ขั้นตอนที่ 2 ประเมินกำลัง ขั้นตอนที่ 3 ค้นหารอยแยก ขั้นตอนที่ 4 รับรู้ เรียนรู้ เข้าใจ และขั้นตอนที่ 5 วิถีชีวิตใหม่ New Normal รวม 12 กิจกรรม 2.2 องค์ประกอบของโปรแกรมประกอบด้วย F = Faith คือ จุดเริ่มต้นคือ ความศรัทธา มีใจมุ่งมั่นจะฝ่าฟันอุปสรรค M = Mind คือ สร้างความเพียรทางใจให้เข้มแข็ง C = Consciousness คือ สติระลึกความทรงจำ A = Awareness คือ มุ่งมั่นรู้กายใจตน การตระหนักรู้ในตนเอง W = Wisdom คือ ปัญญาที่รู้แจ้งในการฝ่าฟันอุปสรรค 2.3 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้องของคุณภาพของโปรแกรมการพัฒนาความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคตามหลักพุทธจิตวิทยา มีค่า IOC อยู่ในช่วง 0.80-1.00 ซึ่งเป็นค่าที่สามารถนำไปใช้ได้ 3. ความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค (AQ) โดยภาพรวมของพนักงานมีคะแนนค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก พนักงานกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยของคะแนนระดับความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคโดยภาพรวมและรายด้าน ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมตามหลักธรรมพละ 5 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และพนักงานที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษาต่างกัน มีการพัฒนาความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคของพนักงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Article Details
References
ธนวรรณ ตั้งสินทรัพย์ศิริ (2550). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพมหานคร: ธนธัชการพิมพ์.
ธันยพร กริชติทายาวุธ (2564), ผลของโปรแกรมการฝึกอบรมแบบบูรณาการพละ 5 และการคิด
เชิงบวกที่มีต่อการริเริ่มพัฒนาความงอกงามแห่งตนและสุขภาวะทางจิตของกลุ่มสมาชิก
สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัยพุทธศักราช
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต), (2551), พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์, พิมพ์ครั้ง
ที่ 11, กรุงเทพฯ: บริษัท เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์ จำกัด,
ธันยพร กริชติทายาวุธ. (2564). “ผลของโปรแกรมการฝึกอบรมแบบบูรณาการพละ 5 และการคิดเชิงบวกที่มีต่อการริเริ่มพัฒนาความงอกงามแห่งตนและสุขภาวะทางจิตของกลุ่มสมาชิกสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย”. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิภาดา คุปตานนท์. (2551). การจัดการและพฤติกรรมองค์การ เทคนิคการจัดการสมัยใหม่. .กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรังสิต.
สุมาลินี มธุรพจน์พงศ์, “ความหวังการมองโลกในแง่ดี และความสามารถในการฟื้นคืนได้: ตัว
แปรทำนายผลงานความพึงพอใจ ความสุขในการทำงานและความผูกพันกับองค์การ”, วารสารวิชาการ Veridian E-Journal. ปีที่ 5 (3): 306-318.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2551). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์.พิมพ์ครั้งที่ 11.กรุงเทพฯ: บริษัท เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์ จำกัด.
Cartwright, S. & Cooper, C., (2014). Bridging Occupational .Dordrecht Springer:
Organizational and Public Health.
Greenberg, J. (2005). Managing Behavior in Organization. New York: Pearson
Education.
Luthans, F., (2008), Organization Behavior.11th Edition.Singapore: McGrawhill.
Stoltz, P.G.(1997). Adversity Quotient: Turning Obstacles into Opportunities.
New York: John Wiley and Sons.