การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Main Article Content

ศันสนีย์ แก้วมุสิก
สมศักดิ์ ลิลา
ประภาศ ปานเจี้ยง

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ตามทฤษฎีสรรคนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม กับกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีปกติ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเรวดีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โดยการสุ่มแบบ Multi-stage Random Sampling กลุ่มทดลอง คือนักเรียน ป.3/1 จำนวน 30 คน และกลุ่มควบคุม คือนักเรียน ป.3/2 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการคูณ ตามทฤษฎีสรรคนิยม ชุดฝึกการคูณหรรษา สื่อการสอนออนไลน์ (โปรแกรม Power Point) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการคูณ และแบบวัดความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Independent T-test  ผลการวิจัยพบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ตามทฤษฎีสรรคนิยม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.79/84.50 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม สูงกว่าหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ โดยใช้สื่อการสอนออนไลน์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ตามทฤษฎีสรรคนิยม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด  (=4.93 , S.D. = 0.25)

Article Details

ประเภทบทความ
Research Articles

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ. (2551). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว กระทรวงศึกษาธิการ.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

_______.(2562) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่ปรับปรุง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545) ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2553) และฉบับที่ 4 (พ.ศ.2562)

_______.(2560) .หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ธัญวรัตน์ แก้วรักษา. (2552). การสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์. ราชบุรี : โรงเรียนวัดสันติการามวิทยา.

นารี มะรุตพันธ์. (2557). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนเรื่องการบวกโดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 [Online]. เข้าถึงได้จาก : http://www.thaischool.in.th/_files_school/34110003/data/34110003_1_20150715-115407.pdf. [2564, ตุลาคม 28]

ประภาพร ถิ่นอ่อง. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ราตรี นันทสุคนธ์. (2555). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ : บริษัทจุดทอง จำกัด.

โรงเรียนเรวดีพัทลุง.(2563). รายงานสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563. พัทลุง : กลุ่มบริหารวิชาการ.

ลลิตา อ่ำบัว. (2562). เทคโนโลยีกับการศึกษา. นิตยสาร สสวท. 46(211).

วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2553). แบบฝึกเสริมทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. สำนักงานวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.