ผลของการใช้รูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ 4 ต่อการเสริมสร้างความสุขในพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง ผลการใช้รูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ 4 เพื่อเสริมสร้างความสุขในกลุ่มผู้ปกครองเด็กที่มีความต้องการพิเศษ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4 เพื่อเสริมสร้างความสุขในกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4เพื่อเสริมสร้างความสุขในกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 3) เพื่อนำเสนอผลทดลองรูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4เพื่อเสริมสร้างความสุขในกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงกึ่งทดลอง โดยคัดเลือกกลุ่มทดลองแบบเจาะจง (Purposive Sampling) คือกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ จำนวน 7 คน ได้ดำเนินการตามกระบวนการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ 4 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติแบบบรรยาย (Descriptive Statistics) และเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลักการทดลอง โดยใช้สถิตินอนพาราเมตริก (Nonparametric) ใช้วิธีทดสอบแบบ Wilcoxon Matched pairs และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (Analytic Induction) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
รูปแบบการให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4เพื่อเสริมสร้างความสุขในกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ คือ กระบวนการที่ส่งเสริมให้เกิดประสบการณ์ และกระตุ้นให้เกิดการคิดและการใส่ใจ เพื่อให้เกิดกระบวนการทางความคิดอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะต้องสนองสิ่งเร้าออกไป โดยประยุกต์ร่วมกับอริยสัจ 4 และการฝึกสติ ให้ผู้ปกครองได้มีการปรับการรับรู้ทุกข์ให้ถูกต้องนำไปสู่ความสุขผ่านกระบวนการต่อไปนี้ คือ 1) สร้างสุข ชวนรู้ทุกข์ 2) สนุกค้นสมุทัย 3) ตั้งเป้าหมายสู่นิโรธ 4) สร้างมรรคสู่ความงอกงาม 5) สรุปธรรมนำชีวิต
ผลการทดลองใช้กระบวนการ การให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4 ต่อการเสริมสร้างความสุขในพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กที่มีความต้องการพิเศษ สรุปได้ว่า ผู้ปกครองที่ผ่านกระบวนการ การให้การปรึกษาตามหลักอริยสัจ4 ต่อการเสริมสร้างความสุขในพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กที่มีความต้องการพิเศษ มีผลการทดสองทางสถิติพบว่า ระดับความสุขของผู้ปกครองหลังจากเข้ากระบวนการปรึกษา มีคะแนนสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกระบวนการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เฉสิมวรรณ เกตุสวาส. (2546) . ผลของการระลึกถึงความหลังแบบกลุ่มและการให้คำปรึกษาแบบภวนิยมแบบกลุ่ม ที่มีต่อความผาสุกในชีวิตของผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
นางชนิกา ภูวดิษยคุณ, (2554) "การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อการบริหารความเครียดในองค์กร",วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, (สาชาวิชาชีวิตและควาตาย,ปัณฑิตวิทยาสัย: มหาริหยาสัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2554) หน้าบทคัดย่อ.
วาสนา เกษมสุข. (2545) ความผาสุกของผู้ดูแลเด็กพัฒนากรล่าซ้ำที่มารับการรักษาที่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการเด็กภาคเหนือการค้นคว้าอิสระปริญญาพยาบาลศาสตรมมหาบัณฑิต,สาขาวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วิชิต นามลักษณ์ .(2547) "การเปรียบเทียบผลการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มโดยวิธีการเผชิญความจริงกับวิธีการให้บริการแบบเมตริกโปรแกรมเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตผู้เสพยาบ้าในคลีนึกจิตสังคมบำบัด ศูนย์สุขภาพชุมชนบนยางต่อ กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด"ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิตสาชาวิชาจิตวิทยาการให้คำปรึกษาคณะศึกษาศาสตร์,(มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)
สชมพูนุท ศรีจันทร์นิล (2552) "จิตวิทยาแนวพุทร: แนวทางเพื่อการเยียวยา และพัฒนาจิตใจมนุษย์"วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, ปีที่ 29 ฉบับที่ 4(ตุลาคม-ธันวาคม 2552)
Being”,( Journal of Personality Social Psychology.51(5)1996) P.1058-1068.
Diener, E., Suh E., & Oishi, S. (1997). Recent Findings on Subjective Well - Being. RetrievedAugust 10, 2004, from http://wwww.psych.uiuc.cdw/~-ediener/hottopid/paper.html.
Emmons, RA,” Personal Strivings : An Approach to Personality and Subjective Well-
Zhan,L.(1992),Quality of life: conceptual and measurement issues. Journal of Advanced Nursing,17,795-800