ข้อโต้แย้งว่าด้วยพหุจักรวาลของ แอร์วิน ชเรอดิงเกอร์ กับ ฮิว เอเวอเรต
คำสำคัญ:
พหุจักรวาล, แอร์วิน ชเรอดิงเกอร์, ฮิว เอเวอเรต, ตรรกศาสตร์, ทฤษฎีมิติที่ 12 มายาจักรวาลสัมพันธ์บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิดทางปรัชญาว่าด้วยพหุจักรวาลของ แอร์วิน ชเรอดิงเกอร์ 2) ศึกษาแนวคิดทางปรัชญาว่าด้วยพหุจักรวาลของ ฮิว เอเวอเรต และ 3) วิเคราะห์ข้อโต้แย้งแนวคิดทางปรัชญาว่าด้วยพหุจักรวาลของ แอร์วิน ชเรอดิงเกอร์ กับ ฮิว เอเวอเรต เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. แนวคิดทางปรัชญาว่าด้วยพหุจักรวาลของ แอร์วิน ชเรอดิงเกอร์ พิจารณาการตีความตามกรอบของตรรกศาสตร์ตะวันตก มีลักษณะการใช้เหตุผลที่เป็นไปในแบบอุปนัย เป็นการอธิบายสถานะซ้อนทับของวัตถุและสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะยุบลงสู่สถานะใดสถานะหนึ่งเมื่อมีการวัดหรือสังเกตการณ์
- 2. ฮิว เอเวอเรต ตีความโดยมีการใช้เหตุผลแบบนิรนัย โดยอธิบายว่า จักรวาลเกิดจากผลลัพธ์ของการวัดที่ต่างกัน ผู้สังเกตไม่ได้กำหนดสถานะ แต่เป็นผู้รับรู้ผลลัพธ์ในจักรวาลหนึ่ง แต่ละสถานะจะดำรงอยู่เป็นจักรวาลคู่ขนานที่แยกออกจากกันเป็นหลายจักรวาล
- 3. ผู้วิจัยเสนอแนวคิด ทฤษฎีมิติที่ 12 มายาจักรวาลสัมพันธ์ โดยพัฒนาจากข้อโต้แย้งเรื่องพหุจักรวาลของชเรอดิงเกอร์กับเอเวอเรต ในฐานะกรอบแนวคิดเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีทางฟิสิกส์กับการตีความทางปรัชญา
สอดคล้องกับพุทธปรัชญา เช่น จุฬนีสูตร กล่าวถึงโลกธาตุ จำนวนมหาศาลและไม่สิ้นสุด เกิดและดับไร้รูปแบบตายตัว ลังกาวตารสูตร ว่าด้วยการสร้างจักรวาลผ่านจิต และ อวตังสกสูตร ในแง่ของโครงข่ายเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน รวมถึงแนวคิดสุญญตาและหลักปฏิจจสมุปบาท อธิบายผลกระทบระหว่างจักรวาล เปิดมุมมองใหม่ต่อความเป็นจริงในมิติของจิตและการรับรู้ กระตุ้นการต่อยอดความรู้และความเข้าใจจักรวาลในเชิงลึกยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
พระมหาบุญไทย ด้วงวงศ์. (2540). การใช้เหตุผลทางตรรกะในพระไตรปิฎก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พระมหาสมบูรณ์ วุฑฒิกโร (พรรณนา). (2560). การตีความในพระพุทธศาสนา. 21 เซ็นจูรี่.
พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์. (2543). ทฤษฎีความรู้. โครงการสนับสนุนงานวิจัย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สยาม ราชวัตร. (2558). วิธีอ้างเหตุผลเพื่อยืนยันความมีอยู่ของโลกหน้าในพุทธศาสนาเถรวาท. วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา, 6(1), 11-29. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JBS/article/view/134500
Berkeley, G. (1982). A Treatise Concerning the Principles of Human Knowledge. Hackett Publishing Company.
Deutsch, D. (2002). The structure of the multiverse. Proceedings of the Royal Society A: Mathematical, Physical and Engineering Sciences, 458(2028), 2911-2923. https://doi.org/ 10.1098/rspa.2002.1015
Einstein, A. (1954). Ideas and Opinions. Crown Publishers.
Everett, H. (1957). Relative State Formulation of Quantum Mechanics. Reviews of Modern Physics, 29, 454-462. https://doi.org/10.1103/RevModPhys.29.454
Hawking, S. & Hertog, T. (2006). Populating the landscape: A top-down approach. Physical Review Journals, 73, 123527. https://doi.org/10.1103/PhysRevD.73.123527
Herbert, N. (2011). Quantum Reality: Beyond the New Physics. Knopf Doubleday Publishing Group.
Hossenfelder, S. (2015). Head Trip. Scientific American, 313(3), 46-49.
Kant, I. (1998). Critique of Pure Reason. Cambridge University Press.
Penrose, R. (1994). Shadows of the mind: A search for the missing science of consciousness. Oxford University Press.
Schrödinger, E. (1935). Die gegenwärtige Situation in der Quantenmechanik. Naturwissenschaften, 23, 807-812. https://doi.org/10.1007/BF01491891
Wheeler, J. A., & Zurek, W. H. (1983). Quantum Theory and Measurement. Princeton University Press. http://www.jstor.org/stable/j.ctt7ztxn5