การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพครูของนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา-ดนตรีศึกษา ของวิทยาลัยนาฏศิลปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำสำคัญ:
รูปแบบ, การจัดการความรู้, สมรรถนะทางวิชาชีพครูบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของการเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพครู 2) พัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพครู 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพครูของนักศึกษา สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา-ดนตรีศึกษา ของวิทยาลัยนาฏศิลปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการวิจัยและพัฒนา เก็บข้อมูล 3 ระยะ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริหาร อาจารย์ประจำหลักสูตร อาจารย์ผู้สอนรายวิชาชีพครู นักศึกษา ปีการศึกษา 2567 โดยเป็นวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ แบบสนทนากลุ่ม แบบประเมิน และแบบทดสอบสมรรถนะวิชาชีพครู วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ วิเคราะห์จาก ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
- การเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพครูของนักศึกษามีความตระหนักและความสำคัญต่อสมรรถนะวิชาชีพครูทุกกลุ่ม โดยเฉพาะด้านการจัดการเรียนรู้ การสื่อสารกับผู้เรียน ความสามารถในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ และจรรยาบรรณวิชาชีพ มีความต้องการให้มีการบูรณาการและการทดลองในสถานการณ์จริง โดยนำมาส่งเสริมบูรณาการให้เป็นระบบ
- รูปแบบการจัดการความรู้ “ครูดีต้องมี BEAT” ขั้นตอนที่ 1 B : Brief the Issue จับจังหวะโจทย์ แบ่งประเด็นการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 E : Envision the Plan วางท่าร่าย วางลายเสียง วางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน ขั้นตอนที่ 3 A : Articulate with Community รังสรรค์ศิลป์ร่วมใจ การแบ่งปันและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4 T : Transfer into Action ออกศิลป์แสดง การแสดงความรู้เพื่อพัฒนาและนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ
- ข้อมูลผลการประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูก่อนและหลังการใช้รูปแบบ ก่อนใช้รูปแบบ นักศึกษามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ “ผ่านเกณฑ์” ทุกด้าน ผลการทำแบบทดสอบสมรรถนะวิชาชีพครู ก่อนจัดกิจกรรม สูงกว่าหลังจัดกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
บัณฑิต ฉัตรวิโรจน์. (2550). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการสอนของนักศึกษาครู [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. Chula Digiverse. http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2007.187
บุญฤดี อุดมผล. (2563). รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะความเป็นครูเชิงพุทธบูรณาการของนักศึกษา คณะ ครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 10(2), 157–169. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JDAR/article/view/244079
ไพโรจน์ สถิรยากร. (2547). การพัฒนารูปแบบฝึกอบรมเทคนิคการสอนงานปฏิบัติในหน่วยงาน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. https://doi.org/10.14457/KMUTNB.the.2004.23
ภัทราพร เกษสังข์, อนุภูมิ คำยัง, กฤศนรัตน์ พุทธเสน, และอรวรรณ เกษสังข์. (2562). สมรรถนะและการประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนา วิชาชีพครูในศตวรรษที่ 21 ของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จังหวัดเลย. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, 11(1), 132-145. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/rmutsvrj/article/view/182205
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). ศาสตร์การนิเทศการสอน และการโค้ช การพัฒนาวิชาชีพ: ทฤษฎีกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 12). คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วาสนา กีรติจำเริญ และสุภาวดี วิสุวรรณ. (2565). การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพครู ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอดแทรกสมรรถนะสำคัญ. วารสารชุมชนวิจัยและพัฒนาสังคม, 16(3), 70–81. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NRRU/article/view/254771
วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2562). การโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน. จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.
วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์. (2562). หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562 สาขาวิชานาฏศิลปศึกษา และสาขาวิชาดนตรีศึกษา. วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์.
วิภาวรรณ เอกวรรณัง, พิกุล เอกวรางกรู, และบุญเรียง ขจรศิลป์. (2560). การพัฒนาแบบประเมินสมรรถนะวิชาชีพครูสำหรับนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารการวิจัยการบริหารพัฒนา มหาวิยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 9(2), 119-131. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/irdssru/article/view/214174
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2564). ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการปฏิรูปการผลิตและพัฒนาครูตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 258 จ(3). สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา.
สุวรรณ เหรียญเสาวภาคย์ และคณะ. (2548). การจัดการความรู้. ก.กมลการพิมพ์.