ผลการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทที่มีต่อความสามารถในการอ่านและเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ผู้แต่ง

  • ฟ้าอรุณ แก้วชาวนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ประเทศไทย
  • เด่นดาว ชลวิทย์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ประเทศไทย

คำสำคัญ:

ความสามารถในการอ่านและเขียนสะกดคำ;, วิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบ เอ็กซ์พลิซิท 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบเชิงทดลอง (Experimental Designs) โดยใช้การทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังเรียน (The One Group Pretest - Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/EP ปีการศึกษา 2567 จำนวน 31 คน โรงเรียนวัดลานบุญ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหาคร ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท จำนวน 6 แผน แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านสะกดคำ จำนวน 30 ข้อ และแบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนสะกดคำ จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน (dependent sample t-test) ผลการวิจัยพบว่า  1. ความสามารถในการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01  2. ความสามารถในการเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ชนิกานต์ ทองใบ. (2563). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทที่มีต่อความสามารถในการอ่าน และการเขียนเรื่องตามจินตนาการ วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มโรงเรียนแก่งคอยร่วมใจ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ญาณี ไชยวงศา. (2556). การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและแนวคิดการช่วยเหลือเด็กในการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา. (วิทยานิพนปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล. (2558). คู่มือการเรียนการสอนภาษาไทยโดยวิธีแจกลูกและสะกดคำ. กรุงเทพฯ: วศิระ.

ทิศนา แขมมณี. (2566). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 26). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นงลักษณ์ อัจนปัญญา. (2564). จริงไหมการเขียนคือวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยพัฒนาการอ่าน?. เข้าถึงได้จาก https://www.eef.or.th/news-handwriting-learning-reading/

นันทวัน วัฒนมงคลสุข, วรพงษ์ คุณเดชอมร และศิรินาถ บูรณพงษ์. (2560). เทคนิคการสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน”. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 11(3), 277-287.

นิศานาจ โสภาพล. (2563). อ่านอย่างไรให้มีศิลปะ. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.

บุญชม ศรีสะอาด. (2558). การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ. คู่มือการจัดการศึกษา รายวิชา 0501904: วิธีวิทยาระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษาขั้นสูง. มหาสารคาม: สาขาการนิเทศการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2558). วิธีวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 8). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วัชรี ไชยบุตร. (2558). การจัดการเรียนรู้แบบเอ็กซ์พลิซิทเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโม่งหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงใหม่.

ศิริรัตน์ เกิดแก้ว. (2553). ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านสะกดคำตามมาตราตัวสะกดไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). เพชรบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร. (2566). รายงานสรุปผลประเมินการอ่านของนักเรียน. เข้าถึงได้จาก https://bemisschool.bangkok.go.th/

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2561). คู่มือการดำเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการพัฒนาห้องสมุด ประจำปีงบประมาณ 2561. เอกสารอัดสำเนา.

สุวิมล กฤชคฤหาสน์. (2563). การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

อรวรรณ มีชำนาญ. (2557). ผลการใช้รูปแบบการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทที่มีต่อความสามารถในการอ่านและเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนซับใหญ่วิทยาคม จังหวัดชัยภูมิ. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). นนทบุรี:มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

อัจฉรา ชีวพันธ์. (2557). เรื่องน่ารู้สำหรับครูภาษาไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Creswell, J. W., & Guetterman, T. C. (2019). Educational research: Planning, conducting, and evaluating quantitative and qualitative research. (6th ed.). Pearson Education.

Dewey, J. (1997). Experience and education. Simon & Schuster.

Hattie, J., & Jaeger, R. (1998). Assessment and classroom learning: A deductive approach. Assessment in Education: Principles, Policy & Practice, 5(1), 111-125. https://doi.org/10.1080/0969595980050107

Rosenshine, B. (1986). Synthesis of research on explicit teaching. Educational Leadership, 43(7), 60-69. https://www.researchgate.net/publication/234615763

Thomas, G. (2017). How to do your research project: A guide for students. (3rd ed.). SAGE Publications.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

แก้วชาวนา ฟ., & ชลวิทย์ เ. (2025). ผลการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทที่มีต่อความสามารถในการอ่านและเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารสถาบันวิจัยพิมลธรรม, 12(2), 177–192. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/prij/article/view/283605

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research Article)