เรื่องเล็กๆ ของเทคโนโลยีดนตรี 3

Abstract

จากสองตอนก่อนหน้านี้ที่เราได้ทราบถึงประวัติศาสตร์ของมีดีและโครงสร้างหลักของภาษามีดี ไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็จะขออธิบายต่อไปเกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ของมีดีในส่วนที่เหลือต่อไป ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Channel Mode Massage, System Common Massage, System Real-Time Massage ตลอดจนถึง System Exclusive-Massage ซึ่งความรู้และความเข้าใจหลักต่างๆ นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุม ให้อุปกรณ์มีดี(MIDI Devices) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งก็หมายรวมถึงผลงานเพลงที่มีคุณภาพด้วย ก่อนที่ลงไปในหลักการทำงานของ Channel Mode Massage ก็จะข้ออธิบายถึงคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง MIDI Port, MIDI Channel และMIDI Track เสียก่อนเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องแต่เดิม เมื่ออุปกรณ์มีดีเมื่อสมัยที่มีแต่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นั้น การต่อเชื่อมอุปกรณ์ ยังคงใช้แต่สายดิน ( 5 PIN DIN) ต่อเชื่อมระหว่าง Port In และ Port Out ของอุปกรณ์โดยมีข้อจำกัดว่า 1 MIDI In /out port นั้นจะสามารถรับและส่งข้อมูลได้มากที่สุด จำนวน 16 ช่องสัญญาณ โดยยังมีข้อ กำหนดจำเพาะลงไปอีกว่า จะสงวนช่องสัญญาณหมายเลข 10 ไว้เพื่อรับส่งข้อมูลสำหรับเครื่องดนตรีประเภท เครื่องกระทบเท่านั้น ทำให้ได้กฎไว้ท่องกันว่า 1 MIDI Port มี16 MIDI Channel ต่อมาในส่วนของ MIDI Track นั้น ก็จะแตกต่างไปจาก Audio track ไปโดยสิ้นเชิง กล่าวคือ MIDI Track นั้น เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบันทึกข้อมูลมีดี(Sequencer) ไม่มีการแบ่ง เป็น Mono Track หรือ Stereo track จะมีเพียงแค่MIDI Track เท่านั้น ทั้งนี้เพราะแนวคิดในการใช้MIDI Track ใน Se-quencer นั้น ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก ม้วน Piano Roll (ม้วนกระดาษที่ถูกเจอะรูใช้ร่วมกับ เปียโนอัตโนมัติ)