A Development of Difficulty Word Reading and Writing Skill by using the Process of Cooperative Leaning for Prathom Suksa 3 Students of Banpoekrasang School of Sisaket Primary Educational Service Area Office 4
Abstract
ABTRACT
The objectives of the research were to develop a reading and writing Skill by using the process of cooperative Leaning for Prathom Suksa 3 students of Banpoekrasang School of Sisaket Primary Educational Service Area Office 4 and compare a results of the development skill in reading and writing of Prathom Suksa 3 students before and after the operation. The target sample were seventeen Prathom Suksa 3 students of Banpoekrasang School of Sisaket Primary Educational Service Area Office in the first semester of the academic year 2012. The sampling were seventeen students, by means of purposive sampling. The experiment was 13 Cooperative plans achievement test which is 30 questions, multiple-choice, which is the difficulty between .43 to .77 and .27 to .77 between the discrimination and the equal confidence 0.95. The instruments used to gather data were the test, observe students, teacher’s daily records, quiz and the learning achievement test. There were four steps of operation : planning, operating, Observation and Reflection. The operational step had four circles as follow. The first one was the lesson plans 1-4; The second was the lesson plans 5-7; The third was the lesson plans 8-10; and the fourth was lesson plans 11-13. Total was 13 hours, by using the process of Cooperative Leaning. The researcher use the format in cooperative leaning to collecting data. The research had recorded the results of leaning activity form observation and teaching’s daily record. When the research in each circles completed, the researcher had given the quiz to assess students, progress from the operation. Acquired data were analyze to find out shortcomings conducted the test by using the achievement test to re-evaluation. Analyzed by using of qualitative data, accuracy verification and result reports were given in descriptive method. Qualitative data were analyzed by using the fundamental nonparametric statistics.
The research findings were as follows :
- The development of difficulty word reading and Writing Skill in Prathom Suksa 3 students the results found were that students actively in thelearningbehavior. Withunity, Dareto comment,Assistanceinlearning, and can worksuccessfully. And the teacherhave a good personality. BeamingAllow students toworkwiththeirhandsand listen tothe opinions ofstudents. Carestudentsduringclassto givereinforcementto students.Enables students tounderstand the lessons
- The development of difficulty Thai basic word reading and Writing Skill in Prathom Suksa 3 basis that the purpose of the action is students, 80 percent of all students. Achievement test results up to 65 percent when operating fully integrated and tested with four test achievement found that 100 percent of students to score over a certain threshold. All students scored 12 percent of the total. Students have a median score of the test after the operation was significantly higher statistical level of .01.
References
บุญชม ศรีสะอาด. การพัฒนาการสอน. กรุงเทพฯ: ชมรมเด็ก, 2541.
ประวิต เอราวรรณ์. การวิจัยปฏิบัติการ. กรุงเทพฯ: ดอกหญ้าวิชาการ, 2545.
ปิยะนุช ยืนสุข. การปฏิบัติการพัฒนาทักษะการเขียนคำสระลดรูป สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2552.
พรศรี ใจภพ. การปฏิบัติการเขียนสะกดคำที่มีการันต์ วิชาภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโนนค้อ อำเภอบุณฑริก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2552.
ภาวิดา ลุงนาม. การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำโดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2554.
ภูมิพลอดุลยเดช, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา. คำพ่อสอน : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทยและมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์, 2544.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา, 2551.
สนิดาภรณ์ ทิพยเจริญ. การปฏิบัติการรูปแบบวงจร แมคเคอร์แนน (Jame McKenan) เพื่อพัฒนาการอ่านและเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนที่มีปัญญาในช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนเชียงใหม่ประชานุสรณ์ จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2549.
สุนันทา สุนทรประเสริฐ. การสร้างสื่อการสอนและนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนาผู้เรียน. ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์, 2547.
สุวิมล ว่องวาณิช. การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
เสนอ ภิรมจิตรผ่อง. เอกสารประกอบการสอนการพัฒนาแบบทดสอบ. อุบลราชธานี : สาขาวิชาวิจัยและประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี, 2545.
ไสว นามเกตุ. การปฏิบัติการพัฒนาการการอ่านภาษาไทย เพื่อจับใจความโดยใช้แบบฝึกทักษะ
ชั้นประประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโปร่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2555.
อรัญญา สุธาสิโนบล. “การวิจัยปฏิบัติการเพื่อการเรียนการสอน,” วารสารวิชาการ 4, 6 (มิถุนายน 2544) : 66.
Slavin, E. R., N. A. Medden, and R. J. Stevens. “Cooperative Learning Models for the 3 R’S,” Educational Leadership. 47(December1989-January 1990) : 22-25.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย