An Operation on Development of Physics Problem-Solving Abilities on Force and Motion Principles Using-Problem Based Learning of Mathayom Suksa 4 Students, Satree Siriket School, Office of Secondary Educational Service Area 28
Keywords:
Operational Research, Development of Problem-solving Abilities, PhysicsAbstract
The purpose of this research was to investigate the effects of an operation on development of physics problem-solving abilities on force and motion principles using problem-based learning. The samples of the study were 40 Mathayom Suksa 4/1 students enrolling in the first semester of academic year 2014 at Satree Siriket School, Office of Secondary Educational Service Area 28, selected by simple random sampling. The operation for development used a problem-based learning process. The research instrument was an achievement test on problem-solving abilities. The statistics procedures used in the study were percentage, mean, and standard deviation.
The research findings were as follows:
- The operation on development of problem-solving abilities consisted of three cycles each of which had three stages, namely: (1) planning, (2) operation and observation, and (3) reflection. The operation stage used a problem-based learning process which had six stages, namely: (1) identifying the problem, (2) understanding the problem, (3) investigating the problem, (4) synthesizing the knowledge, (5) summarizing and evaluating the answer, and (6) presentation and evaluation. It was found that the students gained the development of an analytical process on issues, a knowledge searching process by themselves, social interaction and group-working skills.
- The effects of the operation were: (1) the problem-solving abilities had an average progression of 17.58, and 82.50 % of the students passed the set criteria. (2) The learning achievement had an average progression of 16.94, and 85.00% of the students passed the set criteria.
References
ชวลิต ทับสีรัก. การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก รายวิชาฟิสิกส์ เรื่องเสียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2553.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. การวิจัยปฏิบัติการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. อุบลราชธานี: ยงสวัสดิ์อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด, 2552.
ปราณี หีบแก้ว. การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2552.
พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์ และ Basanti Majumder. การเรียนรู้โดยใช้ปัญหา (Problem-Based Learning). กรุงเทพฯ: ม.ป.พ., 2544.
พัชรินทร์ ชูกลิ่น. การใช้วิจัยเชิงปฏิบัติการในการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานวิชาชีววิทยา เรื่องเคมีพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2554.
วัลลี สัตยาศัย. การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักรูปแบบการเรียนรู้โดยผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: บุคเน็ท, 2547.
เวียงสด วงศ์ชัย. การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การปกปักรักษาธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2553.
ศิริขวัญ สมนึก. ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2551.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ, 2545.
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle). กรุงเทพฯ: สถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2547.
. หนังสือเรียนวิชาฟิสิกส์ เล่ม 2 ว021 ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา
ลาดพร้าว, 2542.
สุเทพ แพทย์จันลา. ผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2554.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย