การปฏิบัติการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับวิชาวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึงหอม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 17-26
คำสำคัญ:
Development of learning achievement using the backward design approach, operation research, scienceบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อเปรียบเทียบผลการปฏิบัติการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการปฏิบัติการโดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึงหอม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึงหอม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 20 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ จำนวน 12 แผน มีค่าเฉลี่ย 4.61 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (2) แบบทดสอบท้ายวงจร (3) แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู (4) แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน (5) แบบสัมภาษณ์นักเรียน (6) แบบบันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยของประชากรและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
- การปฏิบัติการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ หน่วยการเรียนเรื่อง สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ได้ผลการปฏิบัติการมีลักษณะเป็นบันไดเวียน 5 วงจร ประกอบด้วย วงจรที่ 1 เรื่อง สิ่งแวดล้อม วงจรที่ 2 เรื่อง ทรัพยากรดิน วงจรที่ 3 เรื่อง ทรัพยากรน้ำ วงจรที่ 4 เรื่อง ทรัพยากรป่าไม้ และวงจรที่ 5 เรื่อง ปัญหาการใช้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสิ้น 12 แผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งในแต่ละวงจรประกอบด้วย ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติการ ขั้นสังเกตการณ์และขั้นสะท้อนผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ ซึ่งมีขั้นตอน 3 ขั้น 1) กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ 2) กำหนดหลักฐานการเรียนรู้ 3) วางแผนจัดประสบการณ์การเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ และการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ผลการปฏิบัติการพบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ดีขึ้น
- การเปรียบเทียบผลการปฏิบัติการผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการปฏิบัติการโดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึงหอม พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังปฏิบัติการสูงกว่าก่อนปฏิบัติการ
คำสำคัญ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับ, การวิจัยปฏิบัติการ, วิทยาศาสตร์
References
กานดา ลุลอบ. การปฏิบัติการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้วิธีการออกแบบย้อนกลับวิชาวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึงหอม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2556.
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2551.
คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2555-2559. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2554.
ณัฐพร นุกูลการ. การปฏิบัติการพัฒนาการเรียนแบบร่วมมือกันในวิชาวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2551.
ไตรรงค์ เจนการ. การศึกษามาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดโดยใช้ Backward Design เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนและประเมินผล. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, 2550.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. การวิจัยปฏิบัติการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. อุบลราชธานี: ยงสวัสดิ์อินเตอร์กรุ๊ป, 2552.
นรินทร์ สมบูรณ์. ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระนาฏศิลป์วิชาเลือกนาฏศิลป์พื้นเมือง เรื่อง ประเพณี ผูกเสี่ยวจังหวัดขอนแก่น โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ย้อนกลับ(Backward Design) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนนครขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย ขอนแก่น, 2553.
พรรัตน์ กิ่งมะลิ. การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง พืช โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนตำหรุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2552.
พิกุล ตระกูลสม. การวิจัยปฏิบัติการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง โดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน
ที โอ เอ วิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร. วิทยานิพนธ์
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2552.
ภพ เลาหไพบูลย์. แนวการสอนวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช, 2542.
มูหามัดรุสดี โวะ. ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ผลปลายทางที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ และความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา 6 โรงเรียนสตรีอิสลามวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2553.
เลขาธิการสภาการศึกษา, สำนักงาน. ข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พริกหวานกราฟฟิค, 2552.
วิชาการ, กรม. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2545.
. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2552.
สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. การออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward Design. กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2550.
อดุลย์ ไพรสณฑ์. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการคิดวิเคราะห์ และเจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการเรียนตามแนวคิด Backward Design กับการเรียนแบบปกติ. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2552.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย