THE CURRICULUM IN DEVELOPMENT OF TEACHERS’ ABILITIES IN STEAM EDUCATION: EXPERIENCE MANAGEMENT MODEL OF CHILDHOOD STUDENTS OF SMALL-SIZED PRIMARY SCHOOL IN NAKHON NAYOK PROVINCE
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research article were to 1) examine the effectiveness of
the curriculum development of teachers’ ability to design activities in the STEAM education model, 2) investigate the effects of enhancing abilities to develop activities in the STEAM education model, and 3)survey the teachers’ satisfaction of implementing the curriculum as
a design of development research. The sample employed in the current research consisted of 10 teachers from five small elementary schools in Nakhon Nayok. The research instruments were: 1) the curriculum, 2) an assessment test on knowledge of experience management with the STEAM education model, and 3) an assessment test on planning experience management. The data were statistically analyzed by percentage, mean, and standard deviation. The highest mean of the appropriateness of the curriculum was at 4.58.
The results of the research were as follows:
1) The quality of the curriculum analyzed from the teachers’ knowledge of experience management with the STEAM education after implementing was higher. Besides, after instruction, the teachers’ ability developed through the conduct of learning activities had the mean of 17.20, which was at the highest level. This exhibited that the post-test scores were higher than the pre-test scores with statistical significance at .05.
2) The teachers’ ability to design a plan for experience management based on the STEAM education model for kindergarten students to enhance skills in critical thinking and problem-solving was at the highest level (M = 4.70).
3) The teachers’satisfaction of the curriculum in which the STEAM education model was implemented to plans for the experience management was at the highest level (M= 4.59).
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์บทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยเป็นลายลักษณ์อักษร
ความรับผิดชอบ เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความหรือผู้เขียนเอง ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2557). รายงานการวิจัยแนวทางการพัฒนาการศึกษาไทยกับการเตรียมความพร้อมศตวรรษที่ 21. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
กิตติคุณ รุ่งเรือง, ศิริยุภา พูลสุวรรณ และคณะ. (2558). รายงานการวิจัยโครงการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาครูด้วยระบบหนุนนำต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนจังหวัดนครนายก. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
จักรกฤษณ์ จันทะคุณ. (2557). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างจิตสำนึกในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติตามแนวคิดจิตตปัญญาศึกษา สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. (หลักสูตรปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 7). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การพัฒนาหลักสูตรและการวิจัยเกี่ยวกับหลักสูตร. โรงพิมพ์สุวีริยาสาส์น.
ภิญโญ วงษ์ทอง และคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบการอบรมครูในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้
แนวคิด STEMA เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก.
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2564). กรอบการเรียนรู้และแนวทางการจัดประสบการณ์
การเรียนรู้ บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัย
ตามหลักสูตรปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กระทรวงศึกษาธิการ.
ศิริรัตน์ วงศ์ศิริ และคณะ. (2561). วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. อักษรเจริญทัศน์.
สุปราณี จินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และทักษะการคิดเลขในใจของ
นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปปาโดยใช้แบบฝึกที่เน้นทักษะการคิดเลขในใจกับนักเรียนที่ได้รับ
การสอนโดยใช้คู่มือครู. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ
พระนครศรีอยุธยา.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด, เอกรินทร์ สังข์ทอง และ ชวลิต เกิดทิพย์. (2557). รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูสู่การ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 บริบท โรงเรียนในประเทศไทย. วารสารหาดใหญ่วิชาการ, 12(2), 123-134 พินิจ ขำวงษ์ และคณะ. (2560). ผลของการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูเรื่อง สะเต็มศึกษาต่อการ
รับรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนว สะเต็มศึกษาของครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
จังหวัดสระแก้ว, วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 11(3), 108–120.
พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556). STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21. วารสารนักบริหาร,
(2), 49-56.
เอมิกา วชิระวินท์ และคณะ. (2560). การศึกษาประสิทธิภาพหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์เรื่องการประยุกต์ใช้เว็บ
0 ในชั้นเรียนโดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมกันบนออนไลน์เพื่อส่งเสริมสมรรถนะไอซีทีของครู.
วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 18(1), 44-68.
Carr, R. L., Bennetti V, L. D., Strobe, J. O. (2012). Engineering in the K-12 STEM standards of the 50 U.S. States: An analysis of presence and extent. Journal of Engineering Education, 101(3), 539–564.
Jerald, C. D. (2007). Believing and Achieving (Issue Brief). Center for Comprehensive School
Reform and Improvement.
Seel,B,and Glasgow,Z. (1990). Exercise in Instructional Design. Merrill Publishing Company Bell
& Howell Information Company, Columbus.
Lipman, M. (1993). Thinking children and education. Dobuque, lowa: Kendall/Hunt.
Moore B.N. and Parker R. (2001). Critical Thinking, 6th ed.
Oliva, P. F. (1982). Developing the Curriculum, Brown and Company.
Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice, Brace and World.