การศึกษาการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1

Main Article Content

วราพร ม่วงประถม
พรเทพ รู้แผน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพ  แนวทางพัฒนาการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต 1  การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน  คือ 1) ศึกษาสภาพการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยศึกษากับข้อมูลประชากรทั้งหมด  ประกอบด้วย  ผู้บริหารโรงเรียน  จำนวน 53  โรงเรียน  และครูผู้รับผิดชอบระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน  จำนวน 53 คน  รวมทั้งสิ้น 106 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง  เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยคือแบบสอบถาม   สถิติที่ใช้ ได้แก่การแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ  2) นำเสนอแนวทางพัฒนาการแก้ปัญหาการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน  โดยจัดการสนทนากลุ่มจากนักวิชาการ  จำนวน 8 คน  และวิเคราะห์  โดยการวิเคราะห์เนื้อหา 

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนมีการปฏิบัติส่วนใหญ่   ที่ด้านการปรับปรุงและพัฒนา  หลักการและแนวคิดในการบริหาร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหาร ได้แก่ การกำหนดนโยบาย การส่งต่อนโยบาย การมีส่วนร่วมของบุคลากรและการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประกอบด้วย  การวางแผน   การจัดโครงสร้างองค์กร การนำองค์กร  การปฏิบัติการ การตรวจสอบ ติดตามและประเมินผล   การปรับปรุงพัฒนา และการประสานงาน

2. แนวทางพัฒนาการแก้ปัญหาการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประกอบด้วย 7 ด้าน       โดยสรุปพบว่า 1) ด้านการวางแผน  ได้แก่ วิเคราะห์บริบทสถานศึกษาและจัดทำแผนปฏิบัติงาน  คัดกรองนักเรียน  กำหนดกลยุทธ์  กำหนดแผน/โครงการและกิจกรรม 2) ด้านการจัดโครงสร้างองค์กร ได้แก่  หน่วยงานต้นสังกัดและผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการพัฒนาทีมงานอย่างต่อเนื่อง 3) ด้านการนำองค์กร  ได้แก่ ผู้บริหารต้องศึกษาข้อมูลนโยบายรอบด้านและเป็นผู้นำ สร้างกำลังใจให้กับบุคลากร ติดตามและประเมินผล 4) ด้านการปฏิบัติการ ได้แก่  โรงเรียนสานสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้ปกครอง   ผู้ปกครองและครูแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน          5) ด้านการตรวจสอบ ติดตามและประเมินผล  ได้แก่ โรงเรียนจัดทำแผนการควบคุม  ติดตามและประเมินผล ดำเนินและรายงานผลการปฏิบัติในการติดตาม  6) ด้านการปรับปรุงและพัฒนา ได้แก่ นำผลการติดตามเสนอต่อที่ประชุม วิเคราะห์ปัญหาสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง   มีการรายงานผล      7) ด้านการประสานงาน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา  ครูแนะแนว  ครูที่ปรึกษาต้องใช้ทักษะการประสานงานอย่างรอบด้าน   ใช้เทคนิคการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ   

Article Details

Section
บทความวิจัย

References

ทองทิพภา วิริยะพันธ์.(2553).การบริหารสถานศึกษาและการแก้ไขปัญหา.กรุงเทพฯ : สหธรรมิกจำกัด.

ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์.(2553).การพัฒนา 10 ความสามารถหลักเพื่อก้าวสู่สุดยอดหัวหน้างาน.นนทบุรี : อีซีอินโฟร ดิสพริบิวเตอร์ จำกัด

นพพงษ์ บุญจิตราดุลย์.(2548).โน้ตย่อบริหาร.เชียงใหม่;Orange Group Tactics Design.

โยธิน แสวงดี.(2553).การวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis).สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดน.

นงลักษณ์ วิรัชชัยและคณะ.(2548).การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง.มหาวิทยาลัยนเรศวร.พิษณุโลก.

สุรัตน์ ศรีดาเดช.(2549).การนำเสนอรูปแบบการบริหารงานที่มีประสิทธิผลของผู้บริหาร สถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ กศ.ด., มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก.

สุทธิชัย อัมโรสถ.(2551).การส่งเสริมกิจการนักเรียนของโรงเรียนในอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1.(2557).กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (พ.ศ.2554-2557).

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2546).คู่มือการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้วิกฤตสังคม.กรุงเทพฯ : ชวนพิมพ์.

Warren B.Brown (1980). Organization Theory and Management A Macro Approach. New York : Wiley & Sons.