การนำเสนอแนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยใช้การบริหารคุณภาพด้วยวงจรเดมมิ่ง
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยใช้การบริหารคุณภาพด้วยวงจรเดมมิ่งมีขั้นตอนการวิจัย 3 ขั้นตอน คือ 1) การสร้าง แนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะแก่นักเรียน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ประมาณค่า 3 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง 2) ศึกษาความเหมาะสมของแนวทางการทางการพัฒนาจิตสาธารณะแก่นักเรียน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามความเหมาะสม ประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่ามัธยฐาน และ ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ และ 3) ศึกษาความเป็นไปได้ของแนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะแก่นักเรียนโดยมีประชากร คือ ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความเป็นไปได้ ประมาณค่า 5 ระดับ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยใช้การบริหารคุณภาพด้วยวงจรเดมมิ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน 36 รายการ คือ 1) ขั้นตอนการวางแผน มีรายการปฏิบัติ 18 ข้อ เช่น กำหนดนโยบายให้ครูสอดแทรกพฤติกรรมตัวบ่งชี้ด้านจิตสาธารณะของนักเรียนในทุกรายวิชา และจัดทำโครงสร้างการดำเนินงานการพัฒนาจิตสาธารณะของโรงเรียนโดยกำหนดขอบข่าย บทบาท หน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ฯลฯ 2) ขั้นตอนการดำเนินงานมีรายการปฏิบัติ 5 ข้อ เช่น ดำเนินการตามนโยบาย และแผนการพัฒนาพฤติกรรมตัวบ่งชี้ด้านจิตสาธารณะของนักเรียน และส่งเสริมให้ครู ผู้บริหาร ผู้ปกครองและบุคลากรทางการศึกษาปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ฯลฯ 3) ขั้นตอนประเมินผล มีรายการปฏิบัติ 6 ข้อ เช่น สรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาพฤติกรรมตัวบ่งชี้ด้านจิตสาธารณะของนักเรียน และมอบรางวัลให้กับนักเรียนที่มีผลประเมินผ่านดีเยี่ยม ฯลฯ และ 4) ขั้นตอนการปรับปรุงและพัฒนา มีรายการปฏิบัติ 7 ข้อ เช่น ประมวลสาเหตุที่ทำให้การพัฒนาพฤติกรรมตัวบ่งชี้ด้านจิตสาธารณะของนักเรียนยังไม่บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนด ฯลฯ ซึ่งแนวทางการพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียนมีค่ามัธยฐานมากกว่า 3.50 และค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ ไม่เกิน 1.00 ทุกรายการปฏิบัติจึงถือว่าเป็นรายการที่เหมาะสม และมีความเป็นไปได้โดยรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details
ลิขสิทธิ์บทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยเป็นลายลักษณ์อักษร
ความรับผิดชอบ เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความหรือผู้เขียนเอง ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
References
กฤษณ์ พวงพันธ์. (2552). การพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียน โรงเรียนบ้านตาอุด ตำบลตาอุด อำเภอขุขันธ์
จังหวัดศรีสะเกษ. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา,
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
รักใหม่ ลุนศรี. (2552). การพัฒนาจิตสาธารณะด้านการรักษาความสะอาดของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านโนนกอก
อำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา
การบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วีระพล บดีรัฐ. (2543). PDCA วงจรสู่ความสำเร็จ. กรุงเทพฯ : ประชาชน.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2555). แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการฉบับที่สิบเอ็ด
พ.ศ. 2555 - 2559. กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.
Best, J.W. (1970). Research in education. Boston : Allyn and Bacon.