การสร้างแบบทดสอบวินิจฉัยข้อบกพร่องในการเขียนสะกดคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สำหรับดำเนินการสอบโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อบกพร่องในการเขียนสะกดคำพื้นฐาน 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวินิจฉัยข้อบกพร่องในการเขียนสะกดคำพื้นฐาน และ 3 ประเมินผล
การนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการดำเนินการสอบเขียนสะกดคำพื้นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 430 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบวินิจฉัยในการเขียนสะกดคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ ได้แก่ ค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ค่าความเชื่อมั่น ค่าอำนาจจำแนก และค่าความยาก ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบทดสอบวินิจฉัยในการเขียนสะกดคำพื้นฐาน มีจำนวน 3 ฉบับ 45 ข้อ ได้แก่ ฉบับที่ 1 การเขียนสะกดคำควบกล้ำ จำนวน 15 ข้อ ฉบับที่ 2 การเขียนสะกดคำอักษรนำ จำนวน 15 ข้อ และฉบับที่ 3 การเขียนสะกดคำที่มีตัวการันต์ จำนวน 15 ข้อ เมื่อพิจารณาข้อบกพร่องที่พบมากที่สุด พบว่า ฉบับที่ 1 การไม่เข้าใจความหมายของคำ ฉบับที่ 2 ออกเสียงคำผิด และฉบับที่ 3 จำตัวการันต์ไม่ได้ 2) คุณภาพของแบบทดสอบวินิจฉัยมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ตั้งแต่ 0.80 ถึง 1.00 มีค่าความยากตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.80 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.84 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.94 3) ผลการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไปใช้อยู่ในระดับ มาก ( = 4.28) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความถูกต้องมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( = 4.52)
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ของบทความเป็นของวารสาร การพิมพ์ซ้ำจะต้องได้ร้บการอนุญาตจากบรรณาธิการวารสาร
เอกสารอ้างอิง
Meeluan, N. (2015). Development of a Diagnostic Test of Reading and Spelling Skills in Thai Language for Grade 3 Students in Prachuap Khiri Khan Primary Education Service Area 1 [Master’s thesis]. Sukhothai Thammathirat Open University. (In Thai)
Ministry of Education. (2008a). Thai language learning area. Cooperative Assembly of Thailand Press. (In Thai)
Ministry of Education. (2008b). Basic education core curriculum 2008.Cooperative Assembly of Thailand Press. (In Thai)
Na-Nakhon, T (1999). Utilization of Instructional Media. Ramkhamhaeng University Press. (In Thai)
Neamket, S. (2021). Creating a Diagnostic Test for Conducting Exams by Using Computer Entitled, “Language Expression” Thai Language Department, Grade 6 Level, Buriram Primary Educational Service Area Office 4 [Master’s thesis]. Buriram Rajabhat University. (In Thai)
Pattiyathanee, S. (2024). Educational measurement (14th ed.). Prasan Printing House.(In Thai)
Phoungbanharn, S. (2010). Development of Thai Language Spelling Skills Exercises in the Learning Strand of Thai for Grad 3 Students, Anubandongmuangnoi School [Master’s thesis]. Rajabhat Maha Sarakham University. (In Thai)
Phanudomsak, P. (2022). Diagnosis of Mathematical Deficiencies in Three-Dimensional for student in Grade 6 through web application [Master’s thesis]. Naresuan University. (In Thai)
Rueangphet, P. (2018). Development of a diagnostic test for misconceptions in graphs and linear relation of Grade 7 students in Phichit Province [Master’s thesis]. Naresuan University. (In Thai)
Srisa-ard, B. (2013). Introduction to research (9th ed.). Suweeriyasarn. (In Thai)
Thai Language for Communication Committee, Center for Integrated Studies, General Education Division. (2013). Thai language for Communication. Kasetsart University. (In Thai)
Thasila, K. (2011). Development of a diagnostic test for writing skills in the Thai language learning area for Grade 6 students under the Office of Roi Et Primary Educational Service Area 3 [Master’s thesis]. Mahasarakham University. (In Thai)
