การอยู่ร่วมกันเพื่อสังคมสันติสุขโดยใช้หลักสาราณียธรรม 6 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการอยู่ร่วมกันเพื่อสังคมสันติสุขโดยใช้หลักสาราณียธรรม 6 และ 2) ศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการอยู่ร่วมกันเพื่อสังคมสันติสุขโดยใช้หลักสาราณียธรรม 6 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีประชาชน จำนวน 117,253 คน โดยมีการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยจากตารางสำเร็จรูปของเครซี่และมอร์แกน ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% จะได้กลุ่มตัวอย่างประชากรในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ทั้งสิ้น 384 คน ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ ผู้นำชุมชน นักวิชาการ เครื่องมือที่ใช้ใน การเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม โดยหาดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามและวัตถุประสงค์ (IOC) เป็นรายข้อได้ค่าเท่ากับ 1.00 ทุกข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การประยุกต์ใช้สาราณียธรรม 6 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พบว่า ค่าเฉลี่ยของด้านทิฏฐิสามัญญตา มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือด้านสาธารณโภคีและด้านเมตตามโนกรรม ขณะที่ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำที่สุดคือ ด้านเมตตากายกรรม
2. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการอยู่ร่วมกันเพื่อสังคมสันติสุขโดยใช้หลักสาราณียธรรม 6 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พบว่า การสร้างเสริมให้สังคมสันติสุขได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้นมีปัจจัยสำคัญของการสร้างเสริมการอยู่ร่วมกันเพื่อสังคมสันติสุขคือ การมีสติแยกแยะ พิจารณาปัญหาต่าง ๆ ด้วยปัญญาจะสามารถนำพาสังคมไปสู่สันติสุข ในขณะเดียวกันการแสดงออกทางใจด้วยความเมตตา โดยตั้งจิตปรารถนาดีต่อผู้อื่น เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่สามารถมองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมและทำให้สังคมสันติสุข
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กิตติกันตพงศ์ ศรีบัวนำ และคณะ. (2562). การพัฒนาตัวบ่งชี้การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลในชุมชนเมือง. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(3), 46-63.
ณฐา แย้มสรวล. (2559). การประยุกต์หลักสาราณีธรรมเพื่อเสริมสร้างความปรองดองในการปฏิบัติงานวิชาชีพพยาบาลในโรงพยาบาลบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 1(1), 49-58.
บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ และเหมือนขวัญ เรณุมาศ. (2560). สันติวิธี: การจัดการความขัดแย้งตามแนวทางสันติวิธี. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์, 5(2), 1-16.
ประภาส แก้วเกตุพงษ์ และวิเชียร แสนมี. (2563). พุทธศาสนา : แนวคิดเรื่องสันติสุข. วารสารพุทธมัคค์ ศูนย์วิจัยธรรมศึกษา สำนักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม, 5(1), 63-73.
พระครูอรุณสุตาลังการ. (2563). ความคิดเห็นของพระสังฆาธิการที่มีต่อการปรองดอง เพื่อสังคมสันติสุขในภาคใต้. วารสารมหาจุฬานาครทรรสน์, 7(12), 151-362.
อัครเดช พรหมกัลป์ และคณะ. (2563). การพัฒนากระบวนทัศน์และความเข้าใจทางพหุวัฒนธรรมกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ. ใน รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
อุทัย เอกสะพัง และไพฑูรย์ อินทศิลา. (2559). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 3(1), 93-107.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. . (1970). Determining Sample Size for Research Scillities. Education and Phychological Measurement, 30(3), 607-610.