ผลการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิกที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์เรื่อง อาณาจักรสุโขทัย ของนักเรียนระหว่างก่อน และหลังการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิก (2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิก กลุ่มนักเรียนตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเครือข่ายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิก จำนวน 2 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 20 ข้อ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประวัติศาสตร์ เรื่อง อาณาจักรสุโขทัย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิก สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ร่วมกับผังกราฟิก อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กฤชนก เซี่ยงเท็ญ. (2564). การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองโดยใช้วิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ทิศนา แขมมณี. (2550). รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรชาติ มีชูบท.(2564). การสอนประวัติศาสตร์ในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
วลัย พานิช. (2542). "การสอนด้วยวิธีสตอรี่ไลน์" นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้สำหรับครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ:
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วลัย พานิช. (2543). การจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรทัย มูลคำและสุวิทย์ มูลคำ. (2544). Child Centred : Storyline Method: การบูรณาการ หลักสูตรและการเรียนการสอนโดยเนนผูเรียนเปนสำคัญ. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
อริย์ธัช ฉ่ำมณี. (2560). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ โดยประยุกต์ใช้สื่อออนไลน์
วิชาประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัย
ราชภัฏหาสารคาม.
Ahlquist, S. (2014). The Storyline approach: promoting learning through cooperation in the second language classroom. Education 3-13, 43(1), 40–54. https://doi.org/10.1080/03004279.2015.96169
Bell, S., Harkness, S., & White, G. (2007). Storyline: Developing Effective Questioning
in the Primary Classroom. Glasgow: University of Strathclyde.