แรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ
Main Article Content
บทคัดย่อ
ก
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ จำแนกตาม เพศ ผลการเรียน และความสนใจด้านทักษะวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ จำนวน 357 คน ได้รับแบบสอบถามกลับมา จำนวน 340 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 95 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ โดยรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านภาพลักษณ์ ด้านเหตุผลส่วนตัว ด้านการประกอบอาชีพ ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26, 4.25, 4.25, 4.20 ตามลำดับ และ 2) ผลการเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ ที่มีเพศ ผลการการเรียน และความสนใจทางด้านทักษะวิชาชีพ พบว่า นักเรียนที่มีเพศต่างกัน มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นักเรียนที่มีระดับผลการเรียนและความสนใจทางด้านทักษะวิชาชีพต่างกันมีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
คำสำคัญ : แรงจูงใจ, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง, การศึกษาต่อ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กิตติวินท์ สำเภาทอง และมังกร หริรักษ์. (2567). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจในการเข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) วิทยาลัยภาครัฐในสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม. วารสารนวัตกรรมการจัดการศึกษาและการวิจัย, 6(2), 330-338.
จันทะพอน ไชยะสอ, รสวลีย์ อักษรวงศ์ และรัตนะ ปัญญภา. (2566). แรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิควิชาชีพจำปาสัก. วารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 12(1), 25-35.
จินตนา ไทธานี, วัฒนีย์ โรจน์สัมฤทธิ์, และสุมลนิตย์ เกิดหนุนวงศ์. (2557). แรงจูงใจในการเข้าศึกษาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ของนักศึกษาศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 11(1), 12-19.
จุลลดา จุลเสวก และวรันธร อรรคปทุม. (2562). แรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 13(2), 149-160.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่10 ฉบับปรับปรุงใหม่). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พรจันทร์ โขมพัฒน์, ประสิทธิ์ กุลบุญญา และไพศาล พากเพียร. (2565). ภาพลักษณ์วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานีที่มีผลในการตัดสินใจศึกษาต่อของนักศึกษา. วารสาร มจร. อุบลปริทรรศน์, 7(2), 301-315.
ลัดดาวัลย์ มากช่วย. (2564). แรงจูงใจที่มีผลต่อการเลือกศึกษาต่อของนักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ. https://kku.world/19k8rr
ศิรินภา ศรีโคกล่าม. (2556). แรงจูงใจในการเลือกศึกษาต่อสถาบันการพลศึกษาของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในเขตภาคกลาง ปีการศึกษา 2554. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต การจัดการเรียนรู้พลศึกษา,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สมจิตร ชัยบัง. (2563). แรงจูงใจของนักศึกษาในการศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) ของวิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด.http://www.roiet-icec.ac.th/_files_school/1345016401/news/1345016401_ 1_20220201-150729.pdf
สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ. (2567). เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2567. https://kku.world/e1cjgm
Conbach, L. J. 1990. Essentials of Psychological Testing. 3"a ed. New York: Harper and Row.
Krejcie, R.V. and Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610.
Likert, Rensis A. (1961). New Patterns of Management. New York: McGraw-Hill.