อิทธิพลของการวางแผนภาษีและความสามารถในการทำกำไรที่ส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาอิทธิพลของการวางแผนภาษีต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย 2. ศึกษาอิทธิพลของความสามารถในการทำกำไรต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยศึกษาจากข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) เฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี พ.ศ. 2564-2566 กลุ่มตัวอย่าง 429 แหล่ง สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติเชิงอนุมาน ประกอบด้วย สถิติสหสัมพันธ์ และสถิติการถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1) ภาษีจ่ายต่อสินทรัพย์รวม (Tax/Total Asset)  (Beta =-1.71, Sig. = .103) ภาษีจ่ายต่อกระแสเงินสด (Tax/CFO) (Beta =0.242, Sig. = .809) ภาษีจ่ายต่อกำไรก่อนหักภาษี (ETR) (Beta =-0.066, Sig. = .179) ไม่มีความสัมพันธ์กับราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผลการวิเคราะห์แสดงค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (Adjust R-Square) เท่ากับ 0.023 แสดงให้เห็นว่าแปรอิสระสามารถอธิบายตัวแปรตามคือ ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ร้อยละ 2.3  และ2) อัตรากำไรสิทธิต่อหุ้น (EPS) (Beta =0.261, Sig. = .001) อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) (Beta = 0.320, Sig. = .007) และอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) (Beta =0.434, Sig. = .001) มีความสัมพันธ์ต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการวิเคราะห์แสดงค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (Adjust R-Square) เท่ากับ 0.046 มีความหมายว่า ตัวแปรอิสระสามารถอธิบายตัวแปรตามคือ ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ร้อยละ 4.60