การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการสำหรับครูภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึ่งประสงค์ และความต้องการจำเป็น และ2) พัฒนาและประเมินโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น การวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึ่งประสงค์ และความต้องการจำเป็นด้านภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูภาษาอังกฤษ จำนวน 217 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 พัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บข้อมูล คือ แบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับน้อย ส่วนสภาพที่พึ่งประสงค์ของภาวะผู้นำทางวิชาการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในลำดับมากที่สุด และ ลำดับความต้องการจำเป็นในการในการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ เรียงลำดับจากดัชนีความ ต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย คือ ความเชี่ยวชาญจัดการเรียนการสอน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ความเชี่ยวชาญด้านหลักสูตร การนิเทศการสอน และความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ 2. โปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของครูภาษาอังกฤษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ของโปรแกรม 3) เนื้อหาของโปรแกรม 4) วิธีการดำเนินการ 5) การวัดและประเมินผลโปรแกรมเนื้อหาประกอบด้วย 5 Module ได้แก่ Module 1 ความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ Module 2 ความเชี่ยวชาญด้านหลักสูตร Module 3 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน Module 4 การนิเทศการสอน และ Module 5 ความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอน โดยมีผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กาญจน์ เรืองมนตรี และธรินธร นามวรรณ. (2557). การบริหารวิชาการและนวัตกรรมการจัดการ การเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. มหาสารคาม : อภิชาติการพิมพ์.
กระทรวงศึกษาธิการ.(2564). สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. แนวทางการยกระดับคุณภาพการผลิตและการพัฒนาครู ปฐมวัยใน สถาบันอุดมศึกษาของไทย. กรุงเทพฯ:สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ,. ( 371.102 ศ 165 นฉ.01 - ฉ.02 )
จันทรานี สงวนนาม. (2553). ทฤษฏีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ:บุคพอยท.
ธิดาวัลยเสตะจันทน์. (2541). ความสัมพันธระหวางพฤติกรรมความเปนผู้นำทางวิชาการของผูนิเทศภายในโรงเรียนกับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสํานักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธศศ.ม. (บริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย
ธรินธร นามวรรณ. (2549). หลักการบริหารการศึกษา. มหาสารคาม : ภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
เทวฤทธิ์ ผลจันทร์.(2564). โปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 27.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นิสาลักษณ์ จันทร์อร่าม. (2561). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนา การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2544). การปฏิรูปการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นสำคัญที่สุด.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ คุรุสภาลาดพร้าว.
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ : สํานักนายกรัฐมนตรี.
สถาบันพัฒนาความก้าวหน้า. (2553). ชุดการสอนแบบศูนย์การเรียน. กรุงเทพฯ: สถาบันความก้าวหน้า.
สุวัฒน์ จุลสุวรรณ์. (2554). การพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสายสนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริการและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สัมมา รธนิธย์. (2556). ภาวะผู้นําของผู้บริหาร. กรุงเทพฯ : บริษัทพิมพ์ดี จํากัด.
Fullan, M.G. (2008). The limits and the potential of professional development. In T.R. Guskey
& M. Huberman (eds), Professional development in education: New paradigms &
practice (pp. 253-267). New York: Teacher College.
Hallinger, P. and Joseph, M. (2009). Assessing the Instructional Management Behavior of Principal. The Elementary School Journal, 86 (2), 221-224.
North Central Regional Educational Laboratory. (2000). Literacy program evaluation tool
Retrieved January. 5, 2006, from: http://www.ncrel.org/literacy/eval.
Ubben, G. C & Hughes, L. W. (1987). The principal : Creative Leadership for Effective Schools. Boston : Allyn and Bacon.
Davis, G.A. and Magaret, A.T. (1989). Effective School and Effective Teachers. Boston : Allyn and Bacon.
Seyfarth. (1999). The principal: New leadership for new challenges. NJ: Prentice Hall.http://www.kappanmagazine.org/content/82/8/598.abstract.
Swanson, R.A. and Holton, E.F. (2001). Foundations of Human Resource Development. San Francisco : Berrett-Koehler Publishers Inc.
Schermerhorn, J.R. (2002). Management. 7th ed. New York : John Wiley and Sons.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30 (3), 607–610.
Kaiser. R.M. (2000). Mapping the learning 0rganization exploring model of 0rganizational learning. Ph.D. dissertation, Louisiana State university, U.S.A.
Lvancevich, J.M. and Matteson, T.M. (2002). Organization Behavior and Management. 6th ed. Houston : McGraw-Hill.
McEwan, E.K. (1998). Seven Steps to Effective Instructional Leadership. California : Corwin Press.
Wildy, H. and Dimmock, C. (1993). Instructional Leadership in Primary and Secondary School in Western Australia. Journal of Educational Administration, 31 (2), 43-61.