การสำรวจความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาด (7P’s) ในการเลือกบริโภคชานมไข่มุกของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย: กรณีศึกษาร้านกงสี ทีบาร์
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ธุรกิจชานมไข่มุกในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องเข้าใจและใช้กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาด (7P’s) ที่มีต่อการเลือกบริโภคชานมไข่มุกของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กรณีศึกษา: ร้านกงสี ทีบาร์ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาด (7P’s) ที่มีต่อการเลือกบริโภคชานมไข่มุก จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ใช้แบบสอบถามรูปแบบออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จำนวน 375 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิและสุ่มอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมาน ได้แก่ Independent Sample t-Test, One-way ANOVA ผลการวิจัยพบว่า 1) ความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาด ที่มีผลต่อการเลือกบริโภคชานมไข่มุกโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และรองลงมาคือราคา 2) นักศึกษาเพศหญิงมีระดับความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาดในการเลือกบริโภคชานมไข่มุกด้านผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการตลาด ลักษณะทางกายภาพ และกระบวนการให้บริการ สูงกว่าเพศชาย นอกจากนี้ยังพบความแตกต่างด้านการส่งเสริมการตลาดและลักษณะทางกายภาพ จำแนกตามคณะที่สังกัด นัยข้อค้นพบ ส่วนประสมทางการตลาดมีผลต่อการเลือกบริโภคชานมไข่มุกของนักศึกษา โดยเฉพาะด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและราคา
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2561). สถิติสำหรับงานวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 12). สามลดา.
ชนิกานต์ คําหอมกุล. (2566). ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อชานมไข่มุกของร้าน Bear House สาขาเดอะมอลล์ท่าพระ (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม.
ชัชวาลย์ เรืองประพันธ์. (2543). สถิติพื้นฐาน พร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม MINITAB SPSS และ SAS. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ไทยรัฐ. (2567). ชานมไข่มุก กับพฤติกรรมคนไทย ชอบความหลากหลายและใส่ใจคุณภาพ. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2568, จาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2780363
นาวิน ทองหล่อ, อรัญญา ทักทาย, สุธาทิพย์ ประพัฒน์โพธิ์, ฉลวย ยวนแห่ว, & พิมกาญดา จันดาหัวดง. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการบริโภคชานมไข่มุกของผู้บริโภคในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติสำหรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ครั้งที่ 2 (15 มีนาคม 2565). มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ปดิพัทธ จูไหล. (2564). ปัจจัยช่องทางการจัดจำหน่ายแบบบูรณาการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชานมไข่มุกในเขตกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
Chowdhury, R. (2023). Impact of perceived convenience, service quality and security on consumers’ behavioural intention towards online food delivery services: The role of attitude as mediator. SN Business & Economics, 3(1), Article 23. https://doi.org/10.1007/s43546-023-00421-7
Event pop. (2562). เทรนด์ชานมไข่มุกในปี 2020: ควรลงทุนหรือแค่กระแส. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2568, จาก https://www.eventpop.me/blogs/trend-bubbletea-in-thaiand
Feraco, A., Rapa, E., Barone, M., & Vitiello, G. (2024). Assessing gender differences in food preferences and physical activity: A population-based survey. Frontiers in Nutrition, 11, Article 1414217. https://doi.org/10.3389/fnut.2024.1414217
Kongsiteabar. (2568). Our story is here. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2568, จาก https://kongsiteabar.com/kongsistory
Kotler, P., & Armstrong, G. (2018). Principles of Marketing (17th ed.). Pearson Education.
Solomon, M. R. (2018). Consumer Behavior (12th ed.). Pearson Education Limited.
Xu, J., Sukpasjaroen, K., & Chankoson, T. (2024). The research on M milk tea brand: Market positioning, consumer insights, and future strategic outlook. Migration Letters, 21(4), 277–293. https://doi.org/10.33182/ml.v21i4.10243
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis (3rd ed.). Harper and Row.
