การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจโกรว์ธ มายด์เซต ของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 ปีการศึกษา 2568 จำนวน 300 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียนชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 50 ข้อ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ตั้งแต่ 0.60 ถึง 1.00 มีค่าอำนาจจำแนก (วิธี Item Total Correlation) ตั้งแต่ 0.463 ถึง 0.829 แบบสอบถามมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.975 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ หมุนแกนองค์ประกอบแบบออโธโกนอลด้วยวิธีแวริแมกซ์ ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียน ได้ตัวแปร 5 องค์ประกอบ 46 ตัวบ่งชี้ ที่ไม่เป็นเมทริกซ์เอกลักษณ์ (Bartlett’s test: = 3686.572, df = 1225, p = .000) มีค่า KMO = .859 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเมื่อหมุนแกนโดยวิธีแวริแมกซ์แล้ว พบว่าได้ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2) การสร้างแรงบันดาลใจ 3) การใช้คำติชมเป็นจุดพัฒนา 4) การบริหารแบบยืดหยุ่น 5) การยกย่องความพยามยาม ซึ่งสามารถทำนายโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียน ได้ร้อยละ 33.424 โดยองค์ประกอบการมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถทำนายโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียนได้มากที่สุด (ร้อยละ 18.310) และองค์ประกอบการยกย่องความพยายาม สามารถทำนายโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียน ได้น้อยที่สุด (ร้อยละ 2.899) ดังนั้น การพัฒนาโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียน ควรคํานึงถึงองค์ประกอบทั้ง 5 นี้ เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาโกรว์ธ มายด์เซตของผู้บริหารโรงเรียนต่อไป
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จุฬาลักษณ์ ทิพวัน และวราพร เอราวรรณ. (2563). การพัฒนาตัวบ่งชี้กรอบความคิดแบบเติบโต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 26(2),
-133.
ธนะดี สุริยจันทร์หอม และอารยา ปิยะกุล. (2561). การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างโกรว์ธ มายด์เซต สําหรับนักศึกษาหลักสูตรวิชาชีพครู. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์, 14(1), 81-90.
ธราเทพ เตมีรักษ์, อนงลักษณ์ หนูหมอก, บุญส่ง วงค์คำ, สรินดา อุคำ และปิยะนันท์ ปลื้มโชค, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจสมรรถนะนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย, วารสารครุศาสตร์ปัญญา,4(2), 135-147.
มุทิตา อดทน, วรากร ทรัพย์วิระปกรณ์ และจุฑามาศ แหนจอน. (2561). ผลของโปรแกรมการพัฒนากรอบความคิดเติบโตในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 24(2), 182-194.
วีระยุทธ แสนพินิจ. (2562). รูปแบบการพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา:การวิจัยผสมผสานวิธี. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2566). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2566 – 2570). http://www.bopp.go.th.
Cattell, R. B. (1966). The scree test for the number of factors. Multivariate Behavioral Research, 1(2), 245–276.
Comrey, A. L., & Lee, H. B., (1992), A first course in factor analysis (p.125), Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates.
Dweck, C. S. & Yeager, D. S. (2019). "Mindsets: A View From Two Eras." Perspectives on Psychological Science, 14(3), 481–496.
Dweck, C. S. (2016). Mindset: The new psychology of success (Updated ed.). New York: BallantineBooks.
Field, A. (2018). Discovering statistics using IBM SPSS Statistics (5th ed.). SAGE Publications.
Gorsuch, R. L. (2015). Factor analysis: Classic edition. Routledge.
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2019). Multivariate data analysis (8th ed.). Cengage Learning.
Kaiser, H. F. (1958). The varimax criterion for analytic rotation in factor analysis. Psychometrika, 23(3), 187–200.
Rattan, A., Savani, K., Naidu, N., & Dweck, C. S. (2019). The role of growth mindset in leadership development. Journal of Leadership & Organizational Studies, 26(3), 287–299. https://doi.org/10.1177/1548051819831293.
Tabachnick, B. G., & Fidell, L. S. (2019). Using multivariate statistics (7th ed.). Pearson.
