รูปแบบการพัฒนาการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

อิสรพงษ์ อุประ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษา เอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ รวม 7 ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างและแบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการหาค่า PNI ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลัก 20 องค์ประกอบรอง และ 80 ตัวบ่งชี้ มีลำดับความต้องการจำเป็นในการพัฒนาเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ 1) การบริหารจัดการศึกษาในรูปแบบ 2) การมีส่วนร่วมของบุคลากรและผู้มีส่วนได้เสีย 3) การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง 4) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัดการเรียน การสอน และ 5) ความเป็นผู้นําและความผูกพัน รูปแบบการพัฒนาการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สร้างขึ้นมีองค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาประกอบด้วย หลักการ ความมุ่งหมาย เนื้อหา สื่อและแหล่งเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล และจากการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 ท่าน ในด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการพัฒนาทั้งหมด โดยรวมมีค่าการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด


คำสำคัญ: รูปแบบการพัฒนา การบริหารคุณภาพ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อุประ อ. . (2025). รูปแบบการพัฒนาการบริหารคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ . วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 4(6), 300–314. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/IEJ/article/view/288841
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

เกสรา บุญครอบ. (2565). การพัฒนาบุคลากรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทํางานของ บริษัท มติ ซุย พรีซิสชั่นไทย จำกัด. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์. 24(2). 51-62.

ยุพิน ทองส่งโสม (2560,รูปแบบการบริหารจัดการด้านการบริการวิชาชีพสำหรับ สถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน.วารสารวิจัยทางการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ. 10(1).หน้า 114-128)

วิชัย วงษ์ใหญ่ และ มารุต พัฒผล. (2563). จากการเรียนรู้ออนไลน์สู่การสร้างสรรค์ นวัตกรรม.กรุงเทพฯ: ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้.

วีรศักดิ์ มุงคุณ. (2559). หน้า 65-80). การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพของ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน.วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์.10(28). 65-80.

สมัย ชารมาลย์. (2560). รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียน เอกชน ประเภทสามัญศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ ค.ด. (ภาวะผนู้ ําทางการบริหารการศึกษา). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

สมาน อัศวภูมิ. (2561). ทบทวนแนวคิดและวิธีวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบและการพัฒนารูปแบบ. วารสารบริหารการศึกษาบัวบัณฑติ . 18 (1), 1-13.

สานิตย์ หนูนิล. (2561). การสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ในการรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร. วารสารนักบริหาร. 38(1). 37-45

สายชล นิติพงศ์. (2563). การพัฒนาผนู้ําและความผูกพันของบุคลากรในองค์กร.วารสารบริหารธุรกิจ, 15(2), 45–58.

สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา. (2552, 23 เมษายน). ระเบียบสำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา. คําสั่งที่ ศธ. 0601/1843

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.(2561).แนวทางการประเมินคุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษาตามมาตรฐานการอาชีวะศึกษา.กรุงเทพฯ:กระทรวงศึกษาธิการ.

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). การจัดการอาชีวศึกษา.กรุงเทพมหานคร:วิทยาลัยเทคนิคมนีบุรี.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค จ ากัด.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน. (2554). พระราชบัญญัติโรงเรยี นเอกชน พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม( ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554. เข้าถึงได้จาก http://www.opec.go.th/ckfinder/userfiles/files/KN/KSS-KN/LAW/001.pdf. 8 สิงหาคม 2565.

อดิพล เปียทอง. (2559). TQM กับการบริหารสถานศึกษาเอกชน. วารสารวิจัยราชภัฏ พระนคร, 11(1), 242 – 251.

อำนวย มีราคา. (2565). การบริหารจัดการศึกษายุคใหม่: แนวทางและความท้าทาย. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. 10(1). 3137-3150.

Bardo and Hartman. (2016). Chapter two: lessons about separateness. Journal of Heart Centered Therapies, 10(2), 115-253.

Boonyasak Kumpliw. (2025). Model Development for Effective Vocational Education Management of Bachelor Degree Program in Institute of Vocational Education in the Northeast. Higher Education Studies. 15(2). 294-306.

De Cenzo, D.A.& Bobbins, S.P. (2005). Human Resource Management. (5th ed). NewYork: John wiley & Sons.

Kouzes, J. M., & Posner, B. Z. (2017). The leadership challenge: How to make extraordinary things happen in organizations (6th ed.). Hoboken, NJ: Wiley.

Kujala, J., Sachs, S., Leinonen, H., Heikkinen, A., & Laude, D. (2022). Stakeholder engagement: Past, present, and future. Business & Society, 61(5), 1136-1196.

McCarthy, A. M. (2023). Digital transformation in education: Critical components for successful implementation. Education and Information Technologies, 28(5), 1234–1250. https://doi.org/10.1007/s10639-023-11345-6.

Nuraini, S., & Humaidi, A. (2024, January). The Influence of Audio-Visual Media on Improving Learning Outcomes of Adab Material For Parents And Teachers In Class VIII-A Mts Al Karim Gondang Nganjuk Academic Year 2023/2024. In Proceeding International Conference on Education (pp. 863-867).

Oakland, J.S. (2018). Total Quality Management. (2nd ed). Oxford: Butterworth- Heinemann.

Yamani, A. Z. (2022). Needs assessment in quality improvement management in vocational education (Case study in Southwest Sumba, Indonesia). Remics Journal, 3(2), 85–92. https://portal.xjurnal.com/index.php/REMICS/article/view/1