การพัฒนาชุดแบบฝึกพัฒนาการจำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

ชัยวัฒน์ ปะสุนะ
ศันทนี คุณชยางกูร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกพัฒนาการจำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรีให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาการจำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 5/1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนโกวิทธำรงเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 23 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) ชุดแบบฝึกพัฒนาการจำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องอาณาจักรธนบุรี เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพชุดแบบฝึกหัด และการวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนสอบก่อนและหลังเรียน ผลการศึกษาพบว่า 1) ชุดแบบฝึกพัฒนาการจำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 80.72/91.74 และ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่องอาณาจักรธนบุรี จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกหัดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน นอกจากนี้คะแนนเฉลี่ยการทดสอบก่อนเรียน เรื่องอาณาจักรธนบุรี วิชาประวัติศาสตร์ (ส 15102) มีค่าเท่ากับ 4.09 คะแนน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.64 คิดเป็นร้อยละ 40.87 และคะแนนเฉลี่ยการทดสอบหลัง มีค่าเท่ากับ 9.17 คะแนน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.09 คิดเป็นร้อยละ 91.74 และมีค่าร้อยละความก้าวหน้าของคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 50.87 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระแกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์. (2553). การเรียนแบบท่องจำ หรือ Rote Learning. https://www.moe.go.th/การเรียนแบบท่องจำ-หรือ-rote-lear/

ขวัญทิชา เชื้อหอม และภาวิณี โสธายะเพ็ชร. (2564). การศึกษาการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5: กรณีศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 16(2), 1-13.

คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2566). การดำเนินงานปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์ ระดับบัณฑิตศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566). ใน คณะกรรมการดำเนินงานปรับปรุงหลักสูตร ครุศาสตร์ ระดับบัณฑิตศึกษา, การประชุมคณะกรรมการดำเนินงานปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์ ระดับบัณฑิตศึกษา. คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ณัทรัช ตาทะรีนทร์. (2563). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ต่อหน่วยการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับผังความคิด. วารสารพัฒนาการเรียนรู้สมัยใหม่, 5(2), 26-39.

ทัศนาวลัย อินทร์ยา และอรนุช ลิมตศิริ. (2564). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองใหญ่ศิริวรวาทวิทยา ที่เรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียในวิชาประวัติศาสตร์. วารสารร้อยแก่นสาร, 6(9), 85-98.

พจ ธรรมพีร. (2565). ความทรงจำคืออะไร?. https://www. psy.chula.ac.th/th/feature-articles/memory

สุไรยา หมะจิ จุฑารัตน์ คชรัตน์ และเก็ตถวา บุญปราการ. (2563, 17 กรกฎาคม). สภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิชาประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเอกชนในสังกัดสำนักงานศึกษาธิการ อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 11, สงขลา.