การออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภทขนมเปี๊ยะ โดยใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ
คำสำคัญ:
การออกแบบบรรจุภัณฑ์, เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ, ข้อกำหนดทางเทคนิคของบรรจุภัณฑ์, การประเมินการใช้งานบรรจุภัณฑ์, ความพึงพอใจต่อบรรจุภัณฑ์ต้นแบบบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำข้อกำหนดบรรจุภัณฑ์ขนมเปี๊ยะที่แปลงจากความต้องการของกลุ่มเป้าหมายด้วยเทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ต้นแบบขนมเปี๊ยะด้านโครงสร้างและกราฟิกบรรจุภัณฑ์ และประเมินบรรจุภัณฑ์ต้นแบบขนมเปี๊ยะด้านการใช้งานและความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนออกแบบบรรจุภัณฑ์ประกอบด้วยการศึกษาความต้องการของลูกค้าที่มีต่อบรรจุภัณฑ์ขนมเปี๊ยะ จากกลุ่มตัวอย่างของประชากรที่บริโภคขนมเปี๊ยะในจังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 126 คน จากนั้นได้ใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ (QFD) เป็นเครื่องมือแปลงความต้องการของลูกค้าให้เป็นข้อกำหนดทางเทคนิค เพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างและกราฟิกของบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ และประเมินบรรจุภัณฑ์ต้นแบบที่พัฒนาขึ้น ผลจากการวิจัยพบว่า ระดับปัจจัยความต้องการที่ลูกค้าให้ความสำคัญมาก คือ ใช้วัสดุธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ( = 4.45) มีสินค้าให้เลือกหลายระดับราคา ( = 4.43) และช่วยยืดอายุจัดเก็บขนม ( = 4.42) ตามลำดับ จากการพัฒนาข้อกำหนดทางเทคนิคของบรรจุภัณฑ์ได้มีการออกแบบโครงสร้างและกราฟิกบรรจุภัณฑ์ ให้มีคุณลักษณะสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า 5 ลำดับแรกคือ โครงสร้างและขนาดบรรจุภัณฑ์เป็นมาตรฐานสำหรับ 3 ผลิตภัณฑ์ แสดงราคาสินค้าให้เห็นชัดเจน มีเอกลักษณ์ที่จดจำได้ง่าย มีข้อมูลสำคัญของสินค้าครบถ้วนและเห็นได้ชัด และการปิดผนึก ผลการประเมินการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ พบว่า บรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมีความต้านการตกกระแทก อยู่ในเกณฑ์ดีและประเมินความพึงพอใจของลูกค้า พบว่า ลูกค้ามีระดับความพึงพอใจมากที่สุด
References
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (2564).รายชื่อผู้ที่ได้รับการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดสิงห์บุรี
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านดาวเรืองพัฒนา (2564) ชื่อผลิตภัณฑ์ (มผช.) ขนมเปี๊ยะ เลขที่ใบรับรอง 153-5/115(สห)
รัญชนา สินธวาลัย และ เสาวรัตน์ เรืองรอง (2561). การประยุกต์ใช้บ้านคุณภาพในการพัฒนารูปแบบข้าวสารเพื่อเป็นของที่ระลึก วารสารมหาวิทยาลัยนเรศวร, ปีที่ 26 ฉบับที่ 3, กรกฎาคม-กันยายน 2561.
เกียรติวิทย์ สมทอง และ นลิน เพียรทอง (2559). การพัฒนาผลิตภัณฑ์กุนเชียงด้วยเทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ วารสารข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหกรรมไทย ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 , มกราคม-มีนาคม 2559.
พิมอักษร เที่ยงกระโทก, สุทธิดา พลอยกระจ่าง และ อภินันท์ พลานุวาส (2559). การประยุกต์ใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ กรณีศึกษา: ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบกล้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, ปี 2559.
ยูนิเซฟ มาศวิเชียร (2561). การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เครื่องแกงโดยการใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ:กรณีศึกษาโรงงานเบเครื่องแกงใต้, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ปี 2561.
วิลาสินี มีสุข และระพี กาญจนะ (2554). การประยุกต์เทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมปังเพื่อสุขภาพ. การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจำปี 2554 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ภัทรกร ออแก้ว (2563). การออกแบบบรรจุภัณฑ์พระสกุลลำพูน นครหริภุญไชย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมหาวัน วารสารวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลธัญบุรี ปีที่ 18 ฉบับที่ 2, ธันวาคม 2563
Sakao, T. (2007). A QFD-centred Design Methodology for Environmental Conscious Product Design. International Journal of Production Research. 45(18), 4143-4162.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
จริยธรรมในการตีพิมพ์บทความ
- กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์พิจารณาบทความที่มีรูปแบบและคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามข้อกำหนดเท่านั้น หากบทความนั้นไม่ตรงตามข้อกำหนด กองบรรณาธิการฯ มีสิทธิ์ในการปฏิเสธลงตีพิมพ์
- ในการขอหนังสือตอบรับการตีพิมพ์ กองบรรณาธิการฯจะออกให้ในกรณีที่บทความนั้นพร้อมที่จะลงตีพิมพ์โดยไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
- การพิจารณาบทความ (Peer review) ของวารสารนวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยีถือเป็นที่สิ้นสุด ผลงานวิชาการอาจไม่ได้ลงตีพิมพ์ในเล่มที่กำหนดไว้จนกว่าจะผ่านการพิจารณาบทความ (Peer Review) และพร้อมจะลงตีพิมพ์เผยแพร่แล้วเท่านั้น
- งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของการวิจัยในมนุษย์และสัตว์จะต้องผ่านการประเมินโดยกรรมการจริยธรรมของต้นสังกัด
- บทความที่ส่งมาต้องไม่เคยเผยแพร่ในสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร JLIT