การพัฒนาความตระหนักทางสังคมผ่านการเรียนรู้เชิงประสบการณ์กับคนพิการ: แนวทางสู่สังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ผลสะท้อนกลับของการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) ผ่านกิจกรรมร่วมกับคนพิการที่มีต่อการพัฒนาจิตสำนึกทางสังคม (Social Consciousness) และการส่งเสริมแนวคิดสังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusive Society) ในนักศึกษา โดยดำเนินการวิจัยกับนักศึกษารายวิชา SSC262 การพัฒนาการเรียนรู้ (Learning Development) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภาคการศึกษาที่ 1/67 รวมจำนวน 71 คน การวิจัยนี้ใช้ ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed-Methods Research) ที่รวมทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ผลการศึกษาพบว่า การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ส่งผลต่อพัฒนาการทางสังคมของนักศึกษาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะใน 6 มิติหลัก ได้แก่ (1) การเข้าใจผู้อื่น (Understanding Others), (2) ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy), (3) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility), (4) การสะท้อนตนเอง (Self-Reflection), (5) ความตระหนักในวัฒนธรรม (Cultural Awareness) และ (6) ความครอบคลุม (Inclusiveness) นักศึกษาสะท้อนว่าการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับคนพิการช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงความท้าทายที่บุคคลเหล่านี้ต้องเผชิญและส่งเสริมมุมมองที่เปิดกว้างต่อความหลากหลายทางสังคม แนวทางบูรณาการแนวคิด Inclusive Society ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัยสามารถปฏิบัติได้ผ่านแนวทางการเรียนรู้เชิงประสบการณ์และการปฏิบัติจริง เช่น การเรียนรู้ผ่านการบริการสังคม (Service-Learning), การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) และการมีส่วนร่วมกับชุมชน (Community Engagement) ควบคู่กับการส่งเสริมมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบต่อสังคม (University Social Responsibility: USR) และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการศึกษาแบบครอบคลุม (Inclusive Education) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทักษะทางสังคมของนักศึกษาและสร้างพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
เอกสารอ้างอิง
Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development, Prentice Hall.
Ted Rogers School of Management. (2022). Innovation and experiential learning (Part of 2022–2023 EDI Report). Toronto Metropolitan University. Retrieved from https://www.torontomu.ca/tedrogersschool/equity-diversity-inclusion-accessibility/2022-2023-edia-report/educate/innovation-and-experiential-learning/
Rawls, J. (1971). A theory of justice, Harvard University Press.
Kabanoff, B. (1991). Equity, equality, power, and conflict. The Academy of Management Review, 16(2), pp. 416 - 441.
กิจสุพัฒ บังวรรณ (2566). การพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนรวมด้วยกิจกรรมเสริมหลักสูตร: ห้องเรียนเสมอภาคเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะพลเมืองเข้มแข็งสำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย, มหาวิทยาลัยนเรศวร, เข้าถึงได้จากhttps://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/5846/3/KitsupatBangwan.pdf
ศรัณยุ หมั้นทรัพย์ (ม.ป.ป.). บทความกฎหมาย: ความเสมอภาค: กลุ่มพลเมืองเข้มแข็ง. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2555 [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา http://www.powerfulcitizen.com/index.php?option=comcontent&view=article&id=13%3A2009-07-09-08-28-02&catid=3%3A2009-07-01-09-55-59&Itemid=19&lang=th
Freire, P. (1970). The adult literacy process as cultural action for freedom. In M. Mackie (Ed.), Literacy and revolution, pp. 123 - 148.
ชิดชงค์ ส.นันทนาเนตร (2560). ทฤษฎีการเรียนรู้ของผู้ใหญ่. คณะศึกษาศาสตร์ : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Sen, A. (1999). Development as freedom, Oxford University Press.
วิจารณ์ พานิช (2557). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21, กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2552). นโยบายสาธารณะไทย: กําเนิดพัฒนาการและสถานภาพของศาสตร์, กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
รัตนลักษณ์ มณีรัตนโชติวงศ์ (2563). แนวทางการพัฒนากระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างอัตลักษณ์เชิงบวกให้แก่ นักศึกษาพิการ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/4467
แบรี่ สมาร์ (2555). มิเชล ฟูโกต์ [Michel Foucault] (จามะรี เชียงทอง และสุนทร สราญจิต, ผู้แปล), ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องค์การมหาชน).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
จริยธรรมในการตีพิมพ์บทความ
- กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์พิจารณาบทความที่มีรูปแบบและคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามข้อกำหนดเท่านั้น หากบทความนั้นไม่ตรงตามข้อกำหนด กองบรรณาธิการฯ มีสิทธิ์ในการปฏิเสธลงตีพิมพ์
- ในการขอหนังสือตอบรับการตีพิมพ์ กองบรรณาธิการฯจะออกให้ในกรณีที่บทความนั้นพร้อมที่จะลงตีพิมพ์โดยไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
- การพิจารณาบทความ (Peer review) ของวารสารนวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยีถือเป็นที่สิ้นสุด ผลงานวิชาการอาจไม่ได้ลงตีพิมพ์ในเล่มที่กำหนดไว้จนกว่าจะผ่านการพิจารณาบทความ (Peer Review) และพร้อมจะลงตีพิมพ์เผยแพร่แล้วเท่านั้น
- งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของการวิจัยในมนุษย์และสัตว์จะต้องผ่านการประเมินโดยกรรมการจริยธรรมของต้นสังกัด
- บทความที่ส่งมาต้องไม่เคยเผยแพร่ในสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร JLIT