EFFECTIVENESS OF THE 30-BAHT UNIVERSAL HEALTHCARE POLICY IMPLEMENTATION USING A NATIONAL ID CARD IN COMMUNITY HOSPITALS OF THE KRABI PROVINCIAL PUBLIC HEALTH OFFICE
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research were to: 1) Examine the level of implementation, 2) Identify the influencing factors, and 3) Explore the operational guidelines of the “30-Baht Universal Healthcare Policy Using a Single ID Card” at community hospitals under the Krabi Provincial Public Health Office. This mixed-methods research employed a concurrent triangulation design. For the quantitative component, the sample consisted of 310 personnel from all eight community hospitals under the Krabi Provincial Public Health Office, selected using simple random sampling. Data were collected using a structured questionnaire with a content validity index ranging from 0.66 to 1.00 and Cronbach’s alpha coefficients between 0.80 and 0.96. The data were analyzed using descriptive statistics and multiple regression analysis. For the qualitative component, in-depth interviews were conducted with 18 key informants, including hospital directors, department heads, and medical staff, selected through purposive sampling. The data were analyzed using content analysis and thematic synthesis. The findings revealed that: 1) The overall effectiveness of policy implementation was at a high level (mean = 3.80) 2) The significant factors influencing the implementation included public awareness, service quality, availability of medicines and medical supplies, access to healthcare services, healthcare facility readiness, performance monitoring, and budget/resource allocation, with standardized regression coefficients of 0.709, 0.563, 0.467, 0.339, 0.233, 0.231, and 0.220 respectively (p < 0.01). These factors collectively explained 79.2% of the variance in implementation outcomes. and 3) The proposed operational guidelines include strategic planning, budget and resource allocation, staffing, health information integration, public awareness campaigns, and quality and safety improvement in healthcare facilities.
Article Details
References
กมลพร นิรารัตน์ และอัครนันท์ คิดสม. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้สูงอายุใน กรุงเทพมหานคร. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 14. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์. (2556). การนำนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปปฏิบัติ กรณีศึกษาเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยภิบัติสึนามิ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน. ใน ดุษฎีนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์ดุษฏีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
เขมมารี รักษ์ชูชีพ และจิตรลดา ตรีสาคร. (2558). ประสิทธิภาพการบริหารต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 7(2), 57-70.
เจษฎา เจริญสิริพิศาล และคณะ. (2567). ผลของโปรแกรมการฟื้นฟูสภาพต่อการฟื้นสภาพหลังผ่าตัดของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง ในหอผู้ป่วยศัลยกรรมโรงพยาบาลจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 42(3), 1-15.
วศินี วีระไวทยะ. (2566). จากการพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุตามแนวทางสุขภาพดีวิถีใหม่โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และภาคีเครือข่ายในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต, 3(1), 1-12.
วัฒนา แก้วแย้ม. (2567). ประสิทธิผลของการดำเนินนโยบายการกระจายอำนาจด้านสุขภาพของโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลสังกัดเขตบริการสุขภาพที่ 11. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(8), 1047-1065.
สง่า ไชยนา. (2565). ประสิทธิผลการดำเนินงานโครงการ 30 บาท รักษาทุกที่ จังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 7(2), 117-126.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2567). รายงานผลการดำเนินงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2567. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. เรียกใช้เมื่อ 15 มกราคม 2568 จาก https://www.nhso.go.th/th/report-quarter
สุทัศชญา จำนงค์ และคณะ. (2567). การมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 10(1), 79-90.
สุนันทา กาญจนพงศ์. (2567). ข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนานโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตร ประชาชนใบเดียวของประเทศไทย. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, 10(1), 199-243.
สุภาพร สีหาพล. (2559). ประสิทธิผลของนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคของโรงพยาบาลสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. ใน วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารองค์การภาครัฐและเอกชน. มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
อัญญารัตน์ ไสยจรัญ. (2557). กลยุทธ์การสร้างความพร้อมเพื่อรองรับการถ่ายโอนภารกิจด้านสาธารณสุขเทศบาลตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารบัณฑิตศึกษา, 11(53), 163-172.
อัมมาร สยามวาลา และคณะ. (2555). ระบบหลักประกันสุขภาพไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.
อารยา ลิมทวีสมเกียรติ. (2563). คุณภาพการให้บริการที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการ Nail Spa ของผู้บริโภค Gen Y ในเขตกรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ. มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรต.
อุษา คําประสิทธิ์. (2565). การพัฒนารูปแบบการบริหารการพยาบาลในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลโนนไทย. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 16(1), 30-44.
เอกภาพ เอกวิกรัย. (2561). ผลของการกำกับดูแลกิจการและการเปลี่ยนผู้บริหาร สูงสุดต่อผลการดำเนินงานและความเสี่ยงของบริษัท. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitude. Archives of Psychology, 22(140), 1-55.