การวิเคราะห์อาชญากรรมไซเบอร์ในประเทศไทยด้วยแนวคิดสามเหลี่ยมอาชญากรรม

Main Article Content

กิตติพันธ์ แท่นตั้งเจริญชัย
ปกป้อง ศรีสนิท

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และสาเหตุของปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ในประเทศไทย โดยประยุกต์ใช้แนวคิดสามเหลี่ยมอาชญากรรม เพื่อทำความเข้าใจองค์ประกอบสามประการ ได้แก่ เหยื่อหรือเป้าหมายที่เหมาะสม ผู้กระทำผิดที่มีแรงจูงใจ และการขาดผู้พิทักษ์ที่สามารถยับยั้งได้ อันนำไปสู่การเสนอแนะแนวทางการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก ผลการศึกษาพบว่า องค์ประกอบของสามเหลี่ยมอาชญากรรม 1) เหยื่อหรือเป้าหมายที่เหมาะสม มิใช่กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดความรู้ทางเทคโนโลยี แต่กลับเป็นกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 31 - 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ใช้งานเทคโนโลยีจำนวนมาก แต่มีความรู้ด้านความปลอดภัยต่ำ 2) ผู้กระทำผิดที่มีแรงจูงใจ มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ปฏิบัติการอย่างเป็นระบบ โดยมีผลประโยชน์ทางการเงินเป็นหลัก และ 3) การขาดผู้พิทักษ์ ช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมายที่เน้นการตั้งรับมากกว่าเชิงรุก ซึ่งพิสูจน์ได้จากอัตราการอายัดทรัพย์สินคืนที่อยู่ในระดับต่ำมาก ดังนั้น การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์จำเป็นต้องอาศัยยุทธศาสตร์การป้องกันที่ตัดวงจรของสามเหลี่ยมอาชญากรรม ด้วยข้อเสนอแนะ 3 ประการ ได้แก่ 1) การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เหยื่อ ผ่านการบูรณาการความรู้และทักษะด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้าสู่ระบบการศึกษา 2) การเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ผู้กระทำผิด โดยเปลี่ยนจากการสืบสวนเชิงรับไปสู่การบังคับใช้กฎหมายเชิงรุก และ 3) การสร้างระบบให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเข้มแข็ง ผ่านการบูรณาการความร่วมมืออย่างไร้รอยต่อระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อสร้างกลไกการป้องกันปราบปรามที่มีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ ซึ่งผลจากการศึกษานี้จะทำให้ประชาชนในสังคมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการป้องกันตนเองจากอาชญากรรมไซเบอร์ได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
แท่นตั้งเจริญชัย ก., & ศรีสนิท ป. (2025). การวิเคราะห์อาชญากรรมไซเบอร์ในประเทศไทยด้วยแนวคิดสามเหลี่ยมอาชญากรรม. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 9(9), 277–290. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/287616
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

คณาธิป ทองรวีวงศ์. (2563). กฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์. กรุงเทพมหานคร: นิติธรรม.

เตือนภัยออนไลน์. (2568). ประเภทอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กลุ่มกลโกงที่คนร้ายมักใช้จุดอ่อนของเหยื่อเพื่อหลอกลวงออนไลน์. เรียกใช้เมื่อ 26 กรกฎาคม 2568 จาก https://pctpr.police.go.th/knowledge.php

ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน. (2568). AOC 1441 เตือนภัย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็น “ตำรวจ” ข่มขู่ผู้เสียหายฯ พบสูญเงินกว่า 25 ล้านบาท. เรียกใช้เมื่อ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.gcc.go.th/?p=279195

ศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์. (2568). สถิติคดีออนไลน์ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2568. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ.

สาวตรี สุขศรี. (2560). อาชญากรรมคอมพิวเตอร์/ไซเบอร์ กับทฤษฎีอาชญาวิทยา. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, 46(2), 415-432.

สาวตรี สุขศรี. (2563). กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์.

สำนักงานกิจการยุติธรรม. (2565). อาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมไทยในวันนี้ พ.ศ. 2565 Updating Thai Criminal Justice 2022. เรียกใช้เมื่อ 20 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.oja.go.th/wp-content/uploads/2023/09/updating-thai-criminal-justice-2022-new.pdf

Ajayi, E. (2016). Challenges to enforcement of cyber-crimes laws and policy. Journal of Internet and Information Systems, 6(1), 1-12.

Choi, K. S. (2015). Cybercriminology and Digital Investigation. Texas: LFB Scholarly Publishing.

Choi, K. S. et al. (2019). Impacts of online risky behaviors and cybersecurity management on cyberbullying and traditional bullying victimization among Korean youth: Application of cyber-routine activities theory with latent class analysis. Computers in Human Behavior, 35(100), 1-10.

Clough, J. (2015). Principles of Cybercrime. (2nd ed.). United Kingdom: Cambridge University Press.

Cohen, L. E. & Felson, M. (1979). Social Change and Crime Rate Trends: Routine Activity Approach. American Sociological Review, 4(44), 588-608.

Council of Europe. (2001). Convention on Cybercrime (CETS No.185). Retrieved July 20, 2025, from https://www.europarl.europa.eu/cmsdata/179163/20090225ATT50418EN.pdf

Datareportal. (2025). DIGITAL 2025: THAILAND. Retrieved July 25, 2025, from https://datareportal.com/reports/digital-2025-thailand?rq=thailand

Dodge, C. E. & Burruss, G. (2019). Policing cybercrime: Responding to the growing problem and considering future solutions. New York: Routledge.

Gercke, M. (2011). Understanding Cybercrime: Phenomena, Challenges and Legal Presponse. (2nd ed.). Switzerland: International Telecommunication Development.

Grabosky, P. N. (2001). Virtual Criminality Old Wine in New Bottles? Social and Legal Studies, 10(2), 243-249.

Vakhitova, Z. I. (2025). Cyber-Routine Activity Theory. In Pontell, H. (Ed.). Oxford Research Enclcopedia of Criminology. New York: Oxford University Press.

Yar, M. (2005). The Novelty of ‘Cybercrime’ An Assessment in Light of Routine Activity Theory. European Journal of Criminology, 2(4), 407-427.