การพัฒนาทักษะการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีโดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิก แบบเคลื่อนไหวสำหรับผู้เรียนชั้นอิสลามศึกษาตอนกลาง

ผู้แต่ง

  • มุสลีมะห์ มูซอ สาขาวิชาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
  • อับดุลรอแม สุหลง สาขาวิชาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
  • มูหำมัดสุใหมี เฮงยามา สาขาวิชาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา

คำสำคัญ:

ทักษะการอ่านกุรอาน, กีรออาตี, สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นเป็นการวิจัยเชิงปริมาณมีวัตถุประสงค์ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของสื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวสำหรับผู้เรียนชั้นอิสลามศึกษาตอนกลาง ตามเกณ์มาตรฐาน 80/80  2) เปรียบเทียบทักษะการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีก่อนและหลังโดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวของผู้เรียนอิสลามศึกษาตอนกลาง 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีโดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวของผู้เรียนอิสลามศึกษาตอนกลาง และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการจัดการเรียนรู้ในการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีโดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวของผู้เรียนอิสลามศึกษาตอนกลางกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้เรียนระดับอิสลามศึกษาตอนกลาง โรงเรียนอิสลามิยะฮ์สหวิทยามูลนิธิ จำนวน 1 ห้อง รวมนักเรียนทั้งหมด 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เพราะกลุ่มนี้ประสบปัญหาในเรื่องการอ่านอัลกุรอาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตี 2) แบบทดสอบทักษะการอัลกุรอานแบบกีรออาตี 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหว สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด E1/E2 = 87.79 /89.22 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) ทักษะการอ่านอัลกุรอานของผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่ออินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหว หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้สื่ออินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีภาพรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{x} = 4.40, S.D. = 0.60)

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิงฉบับภาษาไทย

ชยามร กลัดทรัพย์และน้ำมนต์ เรืองฤทธิ์. (2563). ผลการใช้โมชันอินโฟกราฟิกร่วมกับการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่อง ภูมิศาสตร์ ที่มีผลต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการทำงานร่วมกัน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนารีวิทยา ราชบุรี .วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ซาฮีดะห์ มูซอ. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านกุรอานแบบนูรอนียะห์โดยใช้สื่ออินโฟกราฟิกแบบเคลื่อนไหว สำหรับผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาที่มูลนิธิสตรีมลายูเพื่อพัฒนาการศึกษา.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.

ทิพย์สุเนตร อนัมบุตร. (2551). การอ่านเพื่อวิเคราะห์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

เทวิการ สุดแสวง. (2560). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการสืบพันธ์ของพืชดอกสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือชนิดกิจกรรมเกมแข่งขัน. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

นฤมล ถิ่นวิรัตน์. (2555). อิทธิพลของอินโฟกราฟิกต่อการสื่อสารข้อมูลเชิงซ้อนกรณีศึกษาโครงการ รู้สู้ flood. สืบค้นในเวปไซต์ http://www.thapra.lip.su.ac.th/objects/fulltext/thapra/Nareumol.pdf.

นิมะนาเซ สามะอาลี. (2559). คู่มือการสอนอัลกุรอานหลักสูตรกีรออาตีโรงเรียนอัลกุรอานกีรออาตี. กรุงเทพฯ: สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย.

ปิยพงษ์ ราศรี. (2559). การพัฒนาสื่ออินโฟกราฟิกวิชาเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นสำหรับนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

พงษ์พิพัฒน์ สายทอง.(2560). การพัฒนาโมชั่นอินโฟกราฟิกเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรระดับปริญญาตรี. วิทยานิพนธ์คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

พัชรียา ศรีประทุม. (2560). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐานโดยใช้สถานการณ์ปัญหาตามแนว Pisa เพื่อส่งเสริมความสามารถในการถ่ายโยงการเรียนรู้และเจตคติต่อการเรียนการสอน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 . วิทยานิพนธ์ กศ.ม.มหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

มนัญญา พรินทรากูล. (2560). ผลการใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 7 ชั้น ร่วมกับแผนผังมโนทัศน์ เรื่อง พันธะเคมีที่มีต่อความสามารถในการคิดเชิงมโนทัศน์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4.การค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยนเรศวร.

มูฮำหมัด บิญามีล ซัยนู.(2560).ความยิ่งใหญ่ของอัลกุรอาน. สืบค้นในเวปไซต์ https://www.islammore.com./main/content.php?/page=content&category=/files.

ราชบัณฑิตสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2552. กรุงเทพฯ : เจริญทัศน์.

โรงเรียนอิสลามิยะฮ์สหวิทยามูลนิธิ. (2565). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. พัทลุง : โรงเรียนอิสลามิยะฮ์สหวิทยามูลนิธิ.

ศิริวรรณ เสรีรัตน์. (2549). การวิจัยธุรกิจ. กรุงเทพฯ : ไดมอน อิน บิสสิเน็ต เวิร์ล.

สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย. (1998). พระมหาคัมภีร์อัลกรอานพร้อมแปลเป็นภาษาไทย. อัลมาดีนะห์อัลมูเนาวาเราะห์: ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัดเพื่อการพิมพ์อัลกุรอาน.

เอกสารอ้างอิงฉบับภาษาต่างประเทศ

Al-Rumi, Ustaz dactor Fahat bin Abdulrahman bin Salman. (1998). Dirasat fi Ulumil-Quran.

Al- Riyad: Maktabah al-mulk Fahad alwataniah.

Ibn Hajar Al- Asgalani. (2000). Fath al-Bari. Masr: Dar al- Fikr.

Shuban Muhammad Ismail. (2007). Mudkhal li Dirasad al-Quran wa Sunnah wa ulum Islamiah. Darulnas: Jamiahdimash

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-06-28

รูปแบบการอ้างอิง

มูซอ ม., สุหลง อ., & เฮงยามา ม. . (2024). การพัฒนาทักษะการอ่านอัลกุรอานแบบกีรออาตีโดยใช้สื่อโมชั่นอินโฟกราฟิก แบบเคลื่อนไหวสำหรับผู้เรียนชั้นอิสลามศึกษาตอนกลาง. มนารอ : วารสารประเด็นอิสลามร่วมสมัย, 5(1), 17–34. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/M-JICI/article/view/269427

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย