กลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มิใช่ยาที่ใช้ในห้องผ่าตัดของหน่วยบริการสุขภาพระดับตติยภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมกระบวนการเดินทางตัดสินใจซื้อและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มิใช่ยา และ 2) เสนอกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มิใช่ยากลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่เคยสั่งซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มิใช่ยาของหน่วยบริการสุขภาพระดับตติยภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก ร่วมกับการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั่วไป แรงกดดัน 5 ประการ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม และปัจจัยเชิงกลยุทธ์

ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสินค้ามีคุณภาพและมาตรฐาน ชื่อเสียงกับความน่าเชื่อถือของบริษัท ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดให้ความสำคัญระดับมากที่สุด จำนวน 31 ข้อ กระบวนการเดินทางตัดสินใจซื้อมีความคิดเห็นในระดับเห็นด้วยมากที่สุด จำนวน 23 ข้อ โดยมีปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด 7 ปัจจัย ได้แก่ 1) ได้รับข้อมูลจากพนักงานขาย 2) มีการเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัท 3) มีราคาเหมาะสมและใบเสนอราคาเพื่อใช้เปรียบเทียบราคา 4) สินค้ามีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการ 5) หากพึงพอใจในสินค้าและบริการจะทำการจัดซื้อซ้ำ 6) หากพบว่าสินค้ามีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการบอกต่อเพื่อนร่วมงานหรือเครือข่าย 7) หากพึงพอใจในสินค้าและการบริการของจะบอกต่อเพื่อนร่วมงานหรือเครือข่าย ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มิใช่ยา จึงได้เสนอกลยุทธ์การตลาดในการเพิ่มยอดขาย 4 โครงการ ได้แก่ 1) Best Performance Employee Award 2) Brand Loyalty Program 3) Co-Creation for Research and Innovation Development และ 4) Business Partner (B2B)