การดัดแปลงอาคารประเภทตึกแถวเก่าตามข้อกฎหมายเพื่อใช้ประโยชน์เป็นโฮสเทล กรณีศึกษา โฮสเทลในเขตบางรัก
Main Article Content
บทคัดย่อ
โฮสเทลเป็นธุรกิจบริการที่พักที่กำลังได้รับความนิยมจึงมีผู้สนใจการเปิดธุรกิจประเภทอย่างแพร่หลายโดยนำตึกแถวเก่ามาดัดแปลงและเปลี่ยนการใช้งานเนื่องจากอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในย่านชุมชนและสะดวกต่อการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยว การนำตึกแถวเก่ามาเป็นโฮสเทลนั้น ต้องดูรายละเอียดในหลายเรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบหน้าตา พื้นที่การใช้งาน และที่สำคัญคือเรื่องของการดำเนินการตามข้อกฎหมาย โดยได้มีการออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 และ พ.ศ.2561 (ฉบับที่2) ซึ่งลักษณะและโครงสร้างของอาคารที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องที่จะนำมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมกำหนดทำให้โฮสเทลที่ดัดแปลงมาจากตึกแถวไม่สามารถขอรับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้ จึงมีการออกกฎกระทรวงฉบับนี้ขึ้นมา โดยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ข้อกฎหมายที่ใช้ในการดัดแปลงและศึกษาลักษณะทางกายภาพตึกแถวที่เป็นโฮสที่มีการดัดแปลงลักษณะทางกายภาพโดยการวิจัยนี้ใช้วิธีการสำรวจและการสัมภาษณ์โฮสเทลที่เปิดให้บริการในเขตพื้นที่บางรัก
จากการศึกษาพบว่าห้องน้ำเป็นส่วนที่มีการดัดแปลงมากที่สุดเนื่องมาจากเดิมจำนวนของห้องน้ำในตึกแถวนั้นมีเพียงหนึ่งห้องต่อชั้นซึ่งไม่สามารถรองรับจำนวนคนที่เข้ามาใช้งานในรูปแบบของโฮสเทลได้เพียงพอจึงต้องมีการทำส่วนของห้องน้ำเพิ่มโดยทำตามข้อกำหนดของกฎหมายที่มีการระบุพื้นที่ภายในและขนากรวมไปถึงจำนวนให้สัมพันธ์กับผู้ใช้ส่วนต่อมาเป็นส่วนของการกั้นผนังเพื่อแบ่งพื้นที่ว่างจาดเดิมที่เคยเป็นพื้นที่โล่งภายในในแต่ละชั้นมาเป็นพื้นที่ห้องพักในการบริการซึ่งจากการสำรวจพบว่าพื้นที่ของห้องพักและรูปแบบหน้าตาที่ตกแต่งภายในสอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายในเรื่องของขนาดที่ไม่ต่ำกว่า 8 ตารางเมตร หรือต้องไม่มีรูปลักษณ์หน้าตาคล้ายกับสถานที่ที่เป็นที่เคารพหรือโบราณสถาน
ส่วนที่สำคัญที่พบคือในส่วนของบันไดหนีไฟโดยพบว่าโฮสเทลบางอาคารมีการติดตั้งบันไดหนีไฟภายนอกในแนวดิ่งไว้ที่ผนังด้านนอกในบริเวณที่ใกล้กับห้องพักหรือใส่วนที่เข้าถึงง่ายแต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีการติดตั้งบันไดหนีไฟภายนอกเนื่องมาจากปัญหาเรื่องของการขาดพื้นที่ในการติดตั้งและปัญหาการไม่มีพื้นที่ว่างด้านหลังอาคาร ซึ่งจากการสำรวจโฮสเทลที่เป็นกลุ่มตัวอย่างนั้นพบว่าโฮสเทลทั้งหมดเลือกใช้บันไดหลักเป็นบันไดหนีไฟจากอาคาร ซึ่งถ้าดูกับข้อกฎหมายใหม่ที่กำหนดออกมานั้นการจะใช้บันไดหนีไฟภายในสามารถใช้บันไดหลักได้แต่ต้องมีการปิดล้อมผนังโดยรอบบันไดหลักและต้องมีบานประตูที่สามรถปิดได้เองเพื่อป้องกันควันไฟและการลามเข้ามาในส่วนทางหลบหนี แต่ปรากฎว่าโอสเทลที่เลือกใช้บันไดหลักเป็นบันไดหนีไฟด้วยนั้นไม่ได้มีการปิดล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันไฟตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งยังเป็นปัญหาหลักที่การนำตึกแถวมาดัดแปลงเป็นโฮสเทล
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ถ้าต้องการดัดแปลงตึกแถวเพื่อเป็นโฮสเทลควรดำเนินการตามข้อกฎหมายเป็นอย่างแรกเพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่มาใช้บริการแล้วจึงมองที่รูปแบบการปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งาน เพราะข้อกำหนดของกฎหมายที่ออกมาผ่อนปรนข้อกำหนดในหลายรายการในการเปลี่ยนเป็นโรงแรม ได้จึงควรที่จะดำเนินการตามเพราะถ้าไม่ปฎิบัติอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้