องค์ประกอบและแนวทางการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Main Article Content

ณัฐกมล ฝีปากเพราะ
โสภา อำนวยรัตน์
สันติ บูรณะชาติ
น้ำฝน กันมา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 2) แนวทางการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน  ได้แก่ วิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีวิธีดำเนินการ ได้แก่ 1) การศึกษาองค์ประกอบการเป็นองค์กรแห่งความสุข กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 333 คน จากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้น เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า ทำการวิเคราะห์ข้อมูล  โดยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และ 2) การศึกษาแนวทางการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา จากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์


ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ด้านร่างกายและจิตใจ  ด้านการบริหารของผู้บริหาร ด้านความรู้ความสามารถ ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ และ 2) แนวทางการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนมัธยมศึกษา พบว่าประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ 1) หลักการ  2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการดำเนินการ และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จ

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ฝีปากเพราะ ณ., อำนวยรัตน์ โ., บูรณะชาติ ส., & กันมา น. (2024). องค์ประกอบและแนวทางการบริหารสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 12(2), 80–91. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/UDRUAJ/article/view/276952
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม

(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้า

และพัสดุภัณฑ์.

กัญยาภักษณ์ พะระนะพันธ์. (2556). การเป็นองค์กรแห่งความสุขกับการจัดการความรู้และการมีส่วน

ร่วมที่มีอิทธิพล. วารสารบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร, 3(2), 117-127.

แก้วตา ไทรงาม. (2550). การวิจัยการติดตามสภาวการณ์ครูรายจังหวัด (Teacher Watch) และการ

สร้างตัวแบบการพัฒนาครูที่ตอบสนองสภาวการณ์และปัญหาในการทำงานของครู (พิมพ์ครั้งที่

. นครปฐม: สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา.

ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์, จุลัยวรรณ ดวงโคตะ, และนพพร ทิแก้วศรี. (2556). มาสร้างองค์กร

แห่งความสุขกันเถอะ (พิมพ์ครั้งที่ 1). บริษัท สองขาครีเอชั่น จำกัด.

ทิพวัลย์ รามรงและสานิต ฤทธิ์มนตรี. (2561). แนวทางการเสริมสร้างองค์กรแห่งความสุข

ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 44(1), 185-208.

ธิดาวัลย์ อุ่นกอง, พัชริดา ลำนักเนตร, และอลิสตรา อ่อนอัด. (2567). แนวทางการจัดการศึกษา

ขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว กรณี: จังหวัดเชียงราย. วารสารรัชต์ภาคย์, 18(58), 258-276.

พเยาว์ หมอเล็ก. (2560). ขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูสังกัดองค์กร อำเภอเมือง จังหวัดยะลา.

[การศึกษาอิสระปริญญาโท, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา]. ฐานข้อมูลวิจัย (ThaiLis).

พงศกร ศรีรงค์ทอง. (2565). องค์การแห่งความสุข: มุมมองจากอาจารย์มหาวิทยาลัย. วารสารสุทธิ

ปริทัศน์, 36(2), 150-169.

ภรณ์ทิพย์ ทองวิเศษ และ สุภาวดี ลาภเจริญ. (2567). ความเป็นองค์กรแห่งความสุขในสถานศึกษา

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1. วารสารช่อพะยอม,

(1), 165-190.

สพลกิตติ์ สังข์ทิพย์. (2552). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขในการทำงานของครูสังกัดสำนักงาน

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน: การประยุกต์ใช้โมเดลสมการโครงสร้าง.

วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 6(1), 2563-2577.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2566). แผนพัฒนาเศรษฐกิจ

และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2567).

สิรินทร แซ่ฉั่ว. (2553). ความสุขในการทำงานของบุคลากรเชิงสร้างสรรค์: กรณีศึกษาอุตสาหกรรม

เชิงสร้างสรรค์กลุ่มสื่อและกลุ่มงานสร้างสรรค์เพื่อการใช้งาน [วิทยานิพนธ์ปริญญาโท,

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์].

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/633

สุนทรพจน์ ดำรงค์พานิช. (2555). โปรแกรม Mplus กับการวิเคราะห์ข้อมูลทางพฤติกรรมศาสตร์

และสังคมศาสตร์. มหาสารคาม: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

อุมาวรรณ วาทกิจ. (2560). ปัจจัยสำคัญเป็นองค์กรแห่งความสุข กรณีศึกษาธุรกิจโรงแรมระดับ 4-5

ดาว ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 17(3), 121-131.

Hair, J.F., Black, W.C., Babin, B.J. and Anderson, R.E. (2010). Multivariate Data Analysis

(7th ed.). Pearson, New York.

Helliwell, J. F., Layard, R., Sachs, J. D., De Neve, J.-E., Aknin, L. B., & Wang, S. (Eds.). (2022).

World Happiness Report 2022. New York: Sustainable Development Solutions

Network.

Herzberg, F., Mausner, B., & Snyderman, B. (1959). The motivation to work (2nd ed.). John Wiley.

Maslow, A.H. (1943). A Theory of Human Motivation. Psychological Review, 50(15),

-396. http://dx.doi.org/10.1037/h0054346