สาเหตุการกระทำความผิดทางเพศของเด็กและเยาวชน กรณีศึกษาสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดอุบลราชธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาหาสาเหตุการกระทำความผิดทางเพศของเด็กและเยาวชน และเพื่อศึกษาแนวทางการป้องกันแก้ไขมิให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิดทางเพศ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกจากเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดทางเพศในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี และผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิด และสนทนากลุ่ม จากเจ้าหน้าที่ตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติ นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา มีผู้ให้ข้อมูลรวมทั้งสิ้น 15 คน ผลการศึกษาพบว่า สาเหตุการกระทำความผิดทางเพศของเด็กและเยาวชน มี 3 ปัจจัยดังนี้ 1.ด้านครอบครัว จากการเก็บข้อมูลแบ่งเป็นประเด็นย่อย 3 ประเด็นสาเหตุคือ (1) พ่อแม่แยกทางกัน (2) การเลี้ยงดู และ (3) ความรุนแรงในครอบครัว ปัจจัยที่ 2.ด้านตัวผู้กระทำความผิด จากการเก็บข้อมูลแบ่งเป็นประเด็นย่อย 3 ประเด็นสาเหตุคือ (1) พฤติกรรมก้าวร้าว (2) พฤติกรรมทางจิตเวช และ (3) เสพยาเสพติดและดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจัยด้านที่ 3.ด้านสภาพแวดล้อม จากการเก็บข้อมูล แบ่งเป็นประเด็นย่อย 4 ประเด็นคือ (1) ปัญหาในชุมชน (2) ปัญหาในการคบเพื่อน (3) ปัญหาสภาพเศรษฐกิจ และ(4) ปัญหาสื่อออนไลน์ สำหรับแนวทางการป้องกันแก้ไขมิให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิดทางเพศ แบ่งเป็น 3 แนวทาง โดยแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาทั้งสามแนวทางจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป ดังนี้ 1.พัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่นครอบครัวต้องให้ความอบอุ่นเพียงพอ แนวทางที่ 2.สอดส่องพฤติกรรมเด็กและเยาวชน และแนวทางที่ 3.สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว สุดท้ายแล้วแนวทางป้องกันแก้ไขจะมีวิธีการที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน การป้องกันแก้ไขปัญหาได้ผลมากที่สุดต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างบทบาทครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และการเข้าถึงสื่อออนไลน์ ผู้ปกครองควรแนะนำการใช้อินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์ โดยมีกฎกติกา เงื่อนไขกำกับดูแลจากผู้ปกครอง
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กิตติ มะลิปรีดากุล. (2557).ปัจจัยที่มีผลต่อการกระทำความผิดต่อเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดชลบุรี [วิทยานิพนธ์ปริญญาโท
ที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ฝ่ายประชาสัมพันธ์. (2566). การปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนเมื่อถูกจับกุมตัว. https://www.djop.go.th/infographics
กรรณิการ์ รอดมา. (2558).ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสื่อลามกเด็กบนอินเตอร์เน็ต [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. สถาบันบัณฑิต
พัฒนบริหารศาสตร์.
กัลย์สุดา กุลชาติ. (2561). การพัฒนาแนวทางการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู เด็กและเยาวชน: กรณีศึกษาความร่วมมือระหว่างศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 5
จังหวัดอุบลราชธานีกับมูลนิธิบ้านเฮา [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.
ขนิษฐา พรมกระโทก. (2563). การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นชุมชนเขตชานเมืองจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสานของประเทศไทย. วารสารการพยาบาลและ
การดูแลสุขภาพ, 38(3), 22–31.
จิราพร ชมพิกุล, ปราณี สุทธิสุคนธ์, เกรียงศักดิ์ ซื่อเลื่อม, และดุษณี ดำมี. (2552). สัมพันธภาพในครอบครัวไทย. มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันพัฒนาการ
สาธารณสุขอาเซียน จังหวัดนครปฐม.
ชุติมาภรณ์ ค้าขาย. (2561). อิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ต่อพฤติกรรมเบี่ยงเบนของเด็กและเยาวชน ในเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตี
พิมพ์]. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
เดชา ศิริเจริญ. (2555). เด็กกับอิทธิพลของครอบครัว. วารสารนิติศาสตร์, 3(6), 12-17.
ดวงพร เพชรคง. (2559). กฎหมายกับการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน. https://ruang.nan.police.go.th/wp-content/uploads/2024/04
ตะวันฉาย มิตรประชา. (2557). ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกระทำความผิดซ้ำของเยาวชนเพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเยาวชนภายหลังการปล่อยตัว. วารสาร
วิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 6(1), 34-46.
ทิพย์ทิวา เสนชัย. (2560). แนวทางในการพัฒนาความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธัญทิพ เสนชัย. (2560). แนวทางในการพัฒนาความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก [วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย].
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/1446
มาตาลักษณ์ เสรเมธากุล. (2562). การคุ้มครองสิทธิเด็กภายใต้หลักประโยชน์สูงสุดของเด็กในกฎหมายไทย. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 48(4),
–653.
เลอพร ศุภสร. (2562). การเปิดรับข่าวอาชญากรรมของเด็กและเยาวชน [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรังสิต.
วนัญญา แก้วแก้วปาน. (2560). สัมพันธภาพครอบครัวกับปัญหาการกระทำความผิดในวัยรุ่น. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 10(1), 361–371.
วิระชาญ ขุนไชยแก้ว. (2565). ต้นแบบข้อมูลเชิงบูรณาการด้านสื่อลามกอนาจารเด็ก [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต. (2556). ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ. (2568). ความผิดเกี่ยวกับเพศ. https://www.nrct.go.th/home
โอฬาร เยี่ยมประภาส. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน[วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรุงเทพฯ.
อัจฉรียา ชูตินันทน์. (2557). อาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน.
Bernard, T. & Snipe, J. (1998). Vold's theoretical criminology. Oxford University Press.
Dollard,J.,& Miller, N. E. (1941). Social learning and imitation. CT: Yale University Press.
Dodge, K. A., Dishion, T. J., & Lansford, J. E. (2006). Deviant peer influences in intervention and public policy for youth. Social Policy
Report, 20(1), 3–19. https://doi.org/10.1002/j.2379-3988.2006.tb00046.
Erikson, E. (1950). Childhood and Society. New York: W.W. Norton.
Marsh, I., & Melville, G. (2014). Crime, justice and the media. New York: Routledge.
NovaBizz. (2014). Human Behaviour. https://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/
Offenhauer, P. & Buchalter, A. (2011). Teen Dating Violence: A Literature Review and Annotated Bibliography. New York, NY: Center for
the Study and Prevention of Violence.
Siegel, L. J. (2011). Criminology. Singapore: Thomson, Wadsworth.
Sutherland, E. H. (1974). Criminolog (9th ed.). Philadelphia: Lippincott.